เจาะพื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา 2568 จุดไหนยังไม่มีข้อสรุป?

ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ยังไม่มีข้อยุติ ไทยและกัมพูชายังคงใช้กระบวนการทางการทูต การเจรจาร่วม และในบางกรณีอาจพิจารณาผ่านศาลระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติในอนาคต

แม้ไทย-กัมพูชาจะมีความร่วมมือในหลายด้าน แต่ยังคงมี พื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา ทั้งทางบกและทางทะเลที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์ และยังไม่สามารถตกลงเรื่องเขตแดนได้อย่างชัดเจนในหลายจุด

พื้นที่พิพาททางบก

  • ช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต)
  • พิกัด: จ.อุบลราชธานี
  • จุดตัดเขตแดนไทย-กัมพูชา-ลาว
  • พื้นที่ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร ยังไม่มีการปักปันเขตแดนแน่ชัด
  • ปราสาทตาเมือนธม / ตาเมือนโต๊ด / ตาควาย
  • พิกัด: อ.ภูสิงห์ จ.สุรินทร์
  • ไทย-กัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์พื้นที่รอบปราสาททั้งสามแห่ง
  • ปราสาทพระวิหาร
  • พิกัด: อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
  • แม้ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบยังมีข้อพิพาท
  • ช่องตาพระยา – บึงตระกวน / เขาตาง๊อก / เขากะบานตะบาน
  • พิกัด: สระแก้วและจันทบุรี
  • ยังไม่มีการตกลงปักปันเขตแดนที่ชัดเจน

พื้นที่พิพาททางทะเล

  • พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA)
  • พิกัด: ใกล้เกาะกูด จ.ตราด และอ่าวไทยตอนกลาง-ตอนล่าง
  • ขนาดรวมประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร
  • ไทย-กัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ)

สรุปจังหวัดไทยที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาท

จังหวัดพื้นที่พิพาทที่สำคัญ
อุบลราชธานีช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต)
สุรินทร์ปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาควาย
ศรีสะเกษพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร
สระแก้วช่องตาพระยา, เขาตาง๊อก
จันทบุรีเขากะบานตะบาน
ตราดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

ข้อพิพาทยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา

ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ยังไม่มีข้อยุติ ไทยและกัมพูชายังคงใช้กระบวนการทางการทูต การเจรจาร่วม และในบางกรณีอาจพิจารณาผ่านศาลระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติในอนาคต