ผลบอล ชิงแชมป์อาเซียน รอบชิงชนะเลิศ ไทย พบ ออสเตรเลีย

การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม มานาฮาน สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย

การแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนาม มานาฮาน สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2567 จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 และออสเตรเลียชนะการดวลจุดโทษ 9-8 คว้าแชมป์ไปครอง

สรุปการแข่งขัน ไทย พบ ออสเตรเลีย

  • นาทีที่ 33
    ไทยขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่แนวรับออสเตรเลียพลาด และเป็น ปรเมศ ละอองดี ที่ฉกบอลไปยิงให้ไทยขึ้นนำ
  • ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+3
    ออสเตรเลียตีเสมอ 1-1 จากจังหวะยิงไกลของ ควินน์ แม็คนิโคล

ครึ่งหลังไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ ผลปรากฏว่าออสเตรเลียยิงแม่นยำกว่า ชนะไปด้วยสกอร์รวม 9-8 คว้าแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไปครอง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม ไทย พบ ออสเตรเลีย

  • ทีมชาติไทย U16 (4-3-3)
    ศุภกร พูลผล (GK), ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง, ภูริณัฐ พูลกำลัง, ศุภวิชญ์ ผสม, ดนุพล บุบผา (C), ณัฐกิตติ์ โพธิ์ศรี, ชัยวัฒน์ เงินมา, ปรเมศ ละอองดี, สรกฤช แก้วศรี, ศิวกร พลสรรค์, คณพศ อินทะสิงห์
  • ทีมชาติออสเตรเลีย U16
    รายชื่อผู้เล่นไม่มีระบุในบทความ

การวิเคราะห์บอลไทย พบ ออสเตรเลีย

ทีมชาติไทย U16

  • จุดแข็ง: การเล่นที่มีความสามารถในการใช้จังหวะผิดพลาดของคู่แข่งเพื่อทำประตู การเล่นที่มีความมุ่งมั่นและมีการสร้างโอกาสในการทำประตูจากจังหวะโต้กลับ
  • จุดอ่อน: การป้องกันในช่วงทดเวลาเจ็บที่ทำให้เสียประตูตีเสมอ ความสามารถในการควบคุมเกมในช่วงเวลาที่สำคัญและการยืนเกมรับที่ต้องปรับปรุง

ทีมชาติออสเตรเลีย U16

  • จุดแข็ง: ความสามารถในการยิงไกลและการใช้โอกาสในการทำประตูที่มีความแม่นยำ การเล่นที่มีความมุ่งมั่นและการไม่ยอมแพ้จนถึงช่วงท้ายเกม
  • จุดอ่อน: การเสียบอลในจังหวะสำคัญและการป้องกันที่ยังไม่แน่นอน

สรุป
การแข่งขันนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของทั้งสองทีม ทีมชาติไทยมีการเล่นที่ดีแต่ต้องปรับปรุงในการยืนเกมรับในช่วงท้ายเกม ส่วนออสเตรเลียมีความแข็งแกร่งในการเล่นจนถึงนาทีสุดท้ายและความสามารถในการยิงจุดโทษที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์ไปครอง

สำหรับทีมชาติไทย U16 จะเดินทางกลับประเทศไทยและเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก ที่จังหวัดชลบุรี ในช่วงระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2567 โดยไทยอยู่ร่วมสายกับ อินเดีย, บรูไน และ เติร์กเมนิกสถาน

ผลบอล ยูโร 2024 กลุ่ม E เบลเยียม พบ ยูเครน

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม E คู่ระหว่าง เบลเยียม พบ ยูเครน ที่สนาม สตุ๊ตการ์ท อารีน่า เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม E คู่ระหว่าง เบลเยียม พบ ยูเครน ที่สนาม สตุ๊ตการ์ท อารีน่า เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

สรุปการแข่งขันเบลเยียม พบ ยูเครน

  • นาทีที่ 6
    เบลเยียมได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าไปยิงแต่ไม่ผ่านมือ อนาโตลี ตรูบิน
  • นาทีที่ 33
    เบลเยียมมาได้ฟรีคิกระยะกว่า 20 หลา เควิน เดอ บรอยน์ หลอกยิงเสาแรกแต่บอลโค้งเข้าข้างตาข่าย หมดครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
  • นาทีที่ 63
    เบลเยียมทำเกมบุก เควิน เดอ บรอยน์ ไหลให้ โรเมลู ลูกากู ลากจี้เข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายแต่บอลเบาไป อนาโตลี ตรูบิน รับได้สบาย
  • นาทีที่ 73
    เบลเยียมเกือบได้ประตู ยานนิค การ์ราสโก้ กดเต็มข้อ อนาโตลี ตรูบิน ปัดไว้ได้ บอลไปเข้าทาง เฌเรมี่ โดกู ยิงซ้ำแต่ยังติดบล็อกกองหลัง

จบเกม เบลเยียมเสมอกับยูเครน 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้เบลเยียมจบอันดับ 2 ของกลุ่ม ขณะที่ยูเครนกระเด็นตกรอบ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมเบลเยียม พบ ยูเครน

  • ยูเครน (4-3-3): อนาโตลี ตรูบิน – โอเล็กซานเดอร์ ติมชิค, อิลลีย่า ซาบาร์นี่, โอเล็กซานเดอร์ ซวาต็อค, มิโกล่า มัตวิเยนโก้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ – จอร์จี้ ซูดาคอฟ, โวโลดิมีร์ บราจโก้, มิโกล่า ชาปาเรนโก้ – อาร์เต็ม ดอฟบิค, โรมัน ยาเรมชุค
  • เบลเยียม (4-2-3-1): คูน คาสเทลส์ – ยาน แฟร์ทองเก้น, เวาต์ ฟาส, อาร์กตูร์ เตอ๊าต, ติโมตี กัสตาญ – ยูริ ตีเลอมันส์, อมาดู โอนาน่า – เฌเรมี่ โดกู, เควิน เดอ บรอยน์, เลอันโดร ทรอสซาร์ – โรเมลู ลูกากู

การวิเคราะห์บอลเบลเยียม พบ ยูเครน

เกมนี้แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่ระมัดระวังของทั้งสองทีม ทั้งในด้านการป้องกันและการสร้างโอกาสในการทำประตู

เบลเยียม

  • จุดแข็ง: การเล่นของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เป็นหัวใจในเกมรุกและการสร้างโอกาสให้กับทีม การประสานงานกับ โรเมลู ลูกากู และ เฌเรมี่ โดกู ทำให้ทีมมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง
  • จุดอ่อน: การจบสกอร์ที่ยังขาดความเฉียบคม และการเล่นในแดนกลางที่ยังขาดความราบรื่นในบางจังหวะ

ยูเครน

  • จุดแข็ง: การป้องกันที่เหนียวแน่นและการเซฟที่ยอดเยี่ยมของ อนาโตลี ตรูบิน ที่สามารถป้องกันประตูได้หลายครั้ง การเล่นที่มีความพยายามและมุ่งมั่นในการต้านทานการบุกของเบลเยียม
  • จุดอ่อน: การสร้างโอกาสในการทำประตูที่ยังไม่เพียงพอและการเล่นที่ยังขาดความแน่นอนในบางจังหวะ

สรุป การเสมอในนัดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมในด้านการป้องกัน แต่ยังต้องปรับปรุงในด้านการจบสกอร์เพื่อให้มีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขันในรอบต่อไป เบลเยียมต้องเพิ่มความแม่นยำในการทำประตูและเสริมความราบรื่นในแดนกลาง ขณะที่ยูเครนต้องเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างโอกาสและเพิ่มความแน่นอนในการเล่น

ผลบอลยูโร 2024 กลุ่ม F จอร์เจีย พบ โปรตุเกส

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม F คู่ระหว่าง จอร์เจีย พบกับ โปรตุเกส ที่สนาม อารีน่า เอาฟ์ชาลเก้ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลชนะ 2-0 ของจอร์เจีย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม F คู่ระหว่าง จอร์เจีย พบกับ โปรตุเกส ที่สนาม อารีน่า เอาฟ์ชาลเก้ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลชนะ 2-0 ของจอร์เจีย

สรุปการแข่งขันจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

  • นาทีที่ 2
    จอร์เจียขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ แทงบอลให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกล
  • นาทีที่ 16
    โปรตุเกสได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งกดเต็มข้อบอลพุ่งจะเสียบใต้คานแต่ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ปัดออกหลังไปได้ หมดครึ่งแรก จอร์เจีย นำ 1-0
  • นาทีที่ 55
    จอร์เจียได้จุดโทษจากจังหวะที่ อันโตนิโอ ซิลวา ทำฟาวล์ ลูก้า โลชอชวิลี่ และเป็น จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ สังหารให้ทีมนำห่าง 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือ โปรตุเกสพยายามเดินหน้าบุกแต่ก็ทวงคืนไม่ได้ จบเกม จอร์เจีย กำชัย 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญพลิกจากอันดับสุดท้ายมาเป็นอันดับ 3 กอดคอกันเข้ารอบ

จอร์เจีย พบ โปรตุเกส

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

  • จอร์เจีย (5-3-2): จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ – โอตาร์ คาคาบัดเช่, จอร์จี้ กเวเลซิอานี่, กูราม คาเชีย, ลูก้า โลชอชวิลี่, ลาช่า ดวาลี – จอร์จี้ ชัคเวตัดเช่, จอร์จี้ โคโชราชวิลี่, โอตาร์ คาคาบัดเช่ – ควิชา ควารัตสเคเลีย, จอร์จส์ มิเคาตัดเช่
  • โปรตุเกส (4-3-3): ดีโอโก้ คอสต้า – อันโตนิโอ ซิลวา, ดานีโล่ เปเรยร่า, อันโตนิโอ ซิลวา, กอนซาโล่ อินาซิโอ – เปโดร เนโต้, ชูเอา ปาลินญ่า, ชูเอา เนเวส – ฟรานซิสโก้ คอนเซยเซา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ชูเอา เฟลิกซ์

การวิเคราะห์บอลจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

จอร์เจีย

  • จุดแข็ง: การเล่นที่มีความรวดเร็วและการใช้จังหวะโต้กลับที่มีประสิทธิภาพจาก ควิชา ควารัตสเคเลีย และ จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ การทำประตูตั้งแต่เริ่มเกมช่วยเสริมความมั่นใจให้กับทีม
  • จุดอ่อน: การเล่นในครึ่งหลังที่เน้นการป้องกันมากเกินไป ทำให้ทีมต้องรับแรงกดดันจากโปรตุเกสอย่างหนัก

โปรตุเกส

  • จุดแข็ง: การครองบอลและการสร้างโอกาสจากนักเตะที่มีความสามารถอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ชูเอา เฟลิกซ์ การที่ทีมมีผู้เล่นที่มีทักษะดีและสามารถทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ดี
  • จุดอ่อน: การป้องกันที่ยังมีช่องโหว่และการเล่นที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ดีในเกมรับ การที่เสียประตูตั้งแต่เริ่มเกมทำให้ทีมต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน

สรุป จอร์เจียสามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยการชนะโปรตุเกส 2-0 แม้ว่าผลงานของโปรตุเกสจะดูดีในหลาย ๆ ด้าน แต่การเสียประตูในช่วงต้นเกมและการป้องกันที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเป็นจุดที่ทำให้ทีมไม่สามารถกลับมาสู่เกมได้ ตลอดจนการที่จอร์เจียสามารถใช้จังหวะโต้กลับและการทำประตูที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการคว้าชัยชนะในครั้งนี้

ผลบอลยูโร 2024 กลุ่ม F ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม F คู่ระหว่าง ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก ที่สนาม โฟล์คส์พาร์คสตาดิโอน ฮัมบูร์ก เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลชนะ 2-1 ของตุรกี

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม F คู่ระหว่าง ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก ที่สนาม โฟล์คส์พาร์คสตาดิโอน ฮัมบูร์ก เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลชนะ 2-1 ของตุรกี

สรุปการแข่งขัน ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก

  • นาทีที่ 2
    สาธารณรัฐเช็กได้โอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะที่ อดัม ฮโลเซ็ค คืนบอลให้ ลูคัส โพรว็อด ยิงจากนอกเขตโทษ แต่ แมร์ต กูน็อค พุ่งปัดทิ้งไว้ได้ทัน
  • นาทีที่ 20
    สาธารณรัฐเช็กต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ อันโตนิน บารัค ไปย่ำใส่ ซาลีห์ เอิซชาน กรรมการชูใบเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
  • นาทีที่ 51
    ตุรกีได้ประตูนำ 1-0 จากการยิงของ ฮาคาน ชัลฮาโนลู ที่รับบอลจาก อิสมาอิล ยุคเซ็ค ก่อนกดเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
  • นาทีที่ 66
    สาธารณรัฐเช็กที่เหลือตัวน้อยกว่าตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ โทมัส โชรี่ ตัวสำรองยิงบอลกระดอนไปเข้าทาง โทมัส ซูเช็ค ซ้ำเข้าประตู
  • ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4
    ตุรกีได้ประตูชัยจาก เซง โทซุน หัวหอกตัวสำรองซัดตุงตาข่ายช่วยให้ทีมชนะ 2-1 และผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก

  • สาธารณรัฐเช็ก (3-4-1-2): ยินดริช สตาเน็ค – โทมัส โฮเลช, โรบิน ฮรานาช, ลาดิสลาฟ เครย์ชี่ – วลาดิมีร์ ชูฟาล, โทมัส ซูเช็ค, ลูคัส โพรว็อด, ดาวิด ยูราเซ็ค – อันโตนิน บารัค – มอยมีร์ ไชติล, อดัม ฮโลเซ็ค
  • ตุรกี (4-2-3-1): แมร์ต กูน็อค – แมร์ต มุลเดอร์, ซาเม็ต อาคายดิน, เมรีห์ เดมิรัล, แฟร์ดี้ คาดิโอลู – อิสมาอิล ยุคเซ็ค, ซาลีห์ เอิซชาน – อาร์ด้า กือแลร์, ฮาคาน ชัลฮาโนลู, เคนัน ยิลดิซ – บาริช ยิลมาซ

การวิเคราะห์บอล ตุรกี พบ สาธารณรัฐเช็ก

เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความสามารถในการเล่นภายใต้ความกดดันของทั้งสองทีม

ตุรกี

  • จุดแข็ง: การเล่นของ ฮาคาน ชัลฮาโนลู ที่เป็นหัวใจในการสร้างสรรค์เกมรุก และการที่ แมร์ต กูน็อค ทำหน้าที่ป้องกันประตูได้อย่างยอดเยี่ยม
  • จุดอ่อน: การทำประตูที่ยังขาดความเฉียบคมในช่วงแรกและการป้องกันที่ต้องปรับปรุง

สาธารณรัฐเช็ก

  • จุดแข็ง: การเล่นที่แน่นอนของ โทมัส ซูเช็ค และการที่ทีมสามารถสร้างโอกาสในการทำประตูได้แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า
  • จุดอ่อน: การเล่นที่รุนแรงจนทำให้ทีมต้องเหลือผู้เล่น 10 คน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการควบคุมเกม

สรุป ตุรกีสามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยการชนะสาธารณรัฐเช็ก 2-1 แต่ทั้งสองทีมยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้มีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขันในรอบต่อไป ตุรกีต้องเพิ่มความแม่นยำในการทำประตูและเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกัน ส่วนสาธารณรัฐเช็กต้องควบคุมอารมณ์และเล่นให้รอบคอบมากขึ้นเพื่อไม่ให้เสียเปรียบจากการโดนใบแดง

ผลบอลยูโร 2024 กลุ่ม D เนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรีย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D คู่ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ พบกับ ออสเตรีย ที่สนาม โอลิมเพียสตาดิโอน เบอร์ลิน เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D คู่ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ พบกับ ออสเตรีย ที่สนาม โอลิมเพียสตาดิโอน เบอร์ลิน เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567

สรุปการแข่งขันเนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรีย

  • นาทีที่ 6
    ออสเตรียขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ พราสส์ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษและ ดอนเยลล์ มาเล่น ทิ้งตัวสกัดเข้าประตูตัวเอง
  • นาทีที่ 23
    เนเธอร์แลนด์เกือบตีเสมอ ทียานี่ ไรน์เดอร์ส แทงบอลทะลุช่องให้ ดอนเยลล์ มาเล่น หลุดเดี่ยวแต่ยิงหลุดเสาออกไป หมดครึ่งแรก ออสเตรีย นำ 1-0
  • นาทีที่ 47
    เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะสวนกลับ ซาฟี ซิมอนส์ ไหลบอลออกซ้ายให้ โกดี้ คักโป ปั่นด้วยขวาเสียบเสาไกล
  • นาทีที่ 59
    ออสเตรียนำ 2-1 ฟลอเรียน กริลลิตช์ เปิดบอลให้ โรมาโน่ ชมิด โหม่งเข้าประตู
  • นาทีที่ 75
    เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 2-2 จากการที่ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ โหม่งตั้งให้ เมมฟิส เดอปาย ยิงเข้าตาข่าย ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วยืนยันเป็นประตู
  • นาทีที่ 81
    ออสเตรียแซงนำ 3-2 คริสโตฟ เบาม์การ์ตเนอร์ จ่ายบอลให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนยิงเข้าประตู

จบเกม ออสเตรียเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 3-2 เก็บสามแต้ม ขยับยึดจ่าฝูงกลุ่ม ส่วนเนเธอร์แลนด์หล่นไปอยู่อันดับ 3 แต่ได้ผ่านเข้ารอบเช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมเนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรีย

  • เนเธอร์แลนด์ (4-3-3): บาร์ท แฟร์บรุคเค่น – ลุตชาเรล เกียร์ทราวด้า, สเตฟาน เดอ ฟราย, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – ทียานี่ ไรน์เดอร์ส, แยร์ดี้ เชาเท่น, โจอี้ เฟียร์แมน – ดอนเยลล์ มาเล่น, เมมฟิส เดอปาย, โกดี้ คักโป
  • ออสเตรีย (4-2-3-1): พาทริค เพนท์ซ – สเตฟาน พอช, เควิน ดานโซ่, ฟิลิปป์ ลีนฮาร์ท, โอเล็กซานเดอร์ พราสส์ – นิโกลัส ไซวัลด์, ฟลอเรียน กริลลิตช์ – พาทริค วิมเมอร์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, โรมาโน่ ชมิด – มาร์โค อาร์เนาโตวิช

ผลบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C เดนมาร์ก พบ เซอร์เบีย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C คู่ระหว่าง เดนมาร์ก พบกับ เซอร์เบีย ที่สนาม มิวนิค ฟุตบอล อารีน่า เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C คู่ระหว่าง เดนมาร์ก พบกับ เซอร์เบีย ที่สนาม มิวนิค ฟุตบอล อารีน่า เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

สรุปการแข่งขันเดนมาร์ก พบ เซอร์เบีย

  • นาทีที่ 5
    เดนมาร์กได้ลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษ โยนาส วินด์ เก็บบอลได้ก่อนพลิกยิง แต่ยังไม่ผ่าน เปรดรัก ไรโควิช
  • นาทีที่ 15
    เดนมาร์กพลาดได้ประตูเหลือเชื่อ โยอาคิม เมห์เล่ เติมขึ้นทางขวาก่อนเปิดไปเสาสองถึง อเล็กซานเดอร์ บาห์ วิ่งมาโหม่งจ่อๆ หลุดเสาออกไป หมดครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
  • นาทีที่ 60
    เดนมาร์กเร่งเครื่องและเกือบได้ประตูจาก มอร์เท่น ฮูลมันด์ ที่ยิงจากหน้าเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

ผลการแข่งขัน เดนมาร์ก พบ เซอร์เบีย

ช่วงที่เหลือไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้ จบเกม เดนมาร์ก เสมอ เซอร์เบีย 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ เดนมาร์ก คว้าอันดับ 2 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน เซอร์เบีย ตกรอบ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม เดนมาร์ก พบ เซอร์เบีย

  • เดนมาร์ก (3-4-1-2): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด – อเล็กซานเดอร์ บาห์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, มอร์เท่น ฮูลมันด์, โยอาคิม เมห์เล่ – คริสเตียน เอริคเซ่น – ราสมุส ฮอยลุนด์, โยนาส วินด์
  • เซอร์เบีย (3-4-2-1): เปรดรัก ไรโควิช – มิลอช เวลีโควิช, นิโกล่า มิเลนโควิช, สตราฮินย่า พาฟโลวิช – อันดริย่า ซิฟโควิช, อีวาน อิลิช, ซาช่า ลูคิช, ฟิลิป มลาเดโนวิช – ดูชาน ตาดิช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช – อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

การวิเคราะห์บอล เดนมาร์ก พบ เซอร์เบีย

ในการแข่งขันครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเดนมาร์กมีเกมบุกที่จัดจ้านและสามารถสร้างโอกาสได้หลายครั้ง โดยเฉพาะการประสานงานระหว่าง คริสเตียน เอริคเซ่น และ โยนาส วินด์ ที่สามารถเข้ากันได้ดี ทำให้เกมบุกของเดนมาร์กมีความอันตรายและกดดันคู่แข่งอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เซอร์เบียก็มีเกมรับที่เหนียวแน่นและการเซฟที่ยอดเยี่ยมของ เปรดรัก ไรโควิช ที่สามารถป้องกันประตูได้หลายครั้ง สร้างความลำบากให้กับเดนมาร์กในการทำประตู

ทั้งสองทีมมีจุดเด่นในด้านเกมรับและเกมบุกที่ต่างกัน ซึ่งทำให้เกมนี้เป็นการแข่งขันที่สมดุลและน่าติดตาม อย่างไรก็ตาม เดนมาร์กควรต้องปรับปรุงการจบสกอร์ให้เฉียบคมยิ่งขึ้น หากต้องการไปให้ไกลในรอบต่อไป ส่วนเซอร์เบียต้องเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างสรรค์โอกาสในการบุกเพื่อไม่ให้เกมรับต้องรับภาระมากเกินไป

ผลบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C อังกฤษ พบ สโลวีเนีย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C คู่ระหว่าง อังกฤษ พบกับ สโลวีเนีย ที่สนาม ไรน์เอเนอร์กี้สตาดิโอน โคโลญจน์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C คู่ระหว่าง  อังกฤษ พบกับ สโลวีเนีย ที่สนาม ไรน์เอเนอร์กี้สตาดิโอน โคโลญจน์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

สรุปการแข่งขันอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

  • นาทีที่ 4
    สโลวีเนียได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เบนยามิน เชชโก้ โหม่งบอลเข้ามือ จอร์แดน พิคฟอร์ด อย่างง่ายดาย
  • นาทีที่ 20
    อังกฤษส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจาก บูคาโย ซาก้า แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจาก ฟิล โฟเด้น ล้ำหน้าไปก่อนในจังหวะเปิดบอล
  • ครึ่งหลัง
    ทั้งสองทีมพยายามทำประตู แต่สุดท้ายจบเกมเสมอ 0-0

การวิเคราะห์บอลอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

แม้เกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่กลับแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เข้มข้นและการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองทีม

อังกฤษ

  • เกมรับ: จอร์แดน พิคฟอร์ด ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม เซฟสำคัญในนาทีแรกทำให้ทีมไม่เสียประตู
  • เกมรุก: การประสานงานระหว่าง บูคาโย ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม และ ฟิล โฟเด้น มีความคล่องตัว แต่ยังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์
  • คว้าแชมป์กลุ่ม: ผลเสมอในนัดนี้ทำให้อังกฤษสามารถคว้าแชมป์กลุ่ม C ได้สำเร็จ

สโลวีเนีย

  • เกมรับ: ยาน โอบลัค นายด่านที่แข็งแกร่ง ช่วยป้องกันประตูหลายครั้งทำให้ทีมไม่เสียประตู
  • เกมรุก: เบนยามิน เชชโก้ และ อันดราซ ชโปราร์ มีโอกาสลุ้นทำประตู แต่ขาดความเฉียบขาดในการจบสกอร์
  • หล่นไปอยู่อันดับ 3: ผลเสมอในนัดนี้ทำให้สโลวีเนียตกไปอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

  • อังกฤษ (4-2-3-1): จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี, คีแรน ทริปเปียร์ – คอนเนอร์ กัลลาเกอร์, เดแคลน ไรซ์ – บูคาโย ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น – แฮร์รี่ เคน
  • สโลวีเนีย (4-4-2): ยาน โอบลัค – ซาน คานิชนิค, วานย่า เดอร์คูชิช, ยาคา บิโยล, เอริค ยานซ่า – เปตาร์ สโตยาโนวิช, อดัม กเนซด้า เชริน, ติมี่ เอลช์นิค, ยาน มลาคาร์ – อันดราซ ชโปราร์, เบนยามิน เชชโก้

การเสมอในนัดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในเกมรับของทั้งสองทีม การครองบอลและสร้างโอกาสของอังกฤษถือว่าดี แต่ยังขาดความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ส่วนสโลวีเนียสามารถป้องกันประตูได้ดีและมีโอกาสในการโจมตีแต่ยังไม่เพียงพอในการทำประตู สิ่งที่ต้องปรับปรุงสำหรับทั้งสองทีมคือการเพิ่มความแม่นยำในการจบสกอร์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันรอบต่อไป

ผลการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D คู่ระหว่าง ฝรั่งเศส พบกับ โปแลนด์ ที่สนาม เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D คู่ระหว่าง ฝรั่งเศส พบกับ โปแลนด์ ที่สนาม เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

สรุปการแข่งขัน ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์

  • นาทีที่ 19
    ฝรั่งเศสได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลากบอลเข้าหาเขตโทษก่อนเปิดให้ อุสมาน เดมเบเล่ ซัดเต็มๆ แต่ ลูคัส สโครุพสกี้ พุ่งเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
  • นาทีที่ 34
    โปแลนด์เกือบได้ประตูจากจังหวะที่ พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ เปิดบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โหม่งบอลหลุดเสาไปนิดเดียว หมดครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
  • นาทีที่ 56
    ฝรั่งเศสได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ อุสมาน เดมเบเล่ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สังหารเข้าไปไม่พลาด
  • นาทีที่ 79
    โปแลนด์ได้จุดโทษคืนจากการที่ ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ ทำฟาวล์ คาโรล ชวิเดอร์สกี้ ในเขตโทษ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงจุดโทษไปติดเซฟ ไมค์ เมนญอง แต่กรรมการให้ยิงใหม่และครั้งนี้ เลวานดอฟสกี้ ยิงเข้าไปไม่พลาด ทำให้โปแลนด์ตีเสมอ 1-1

จบเกม ฝรั่งเศสทำได้แค่เสมอกับโปแลนด์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ฝรั่งเศสเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ส่วนโปแลนด์ตกรอบด้วยการมีเพียงแต้มเดียว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมฝรั่งเศส พบ โปแลนด์

  • ฝรั่งเศส (4-3-3): ไมค์ เมนญอง – ชูลส์ กุนเด้, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ – โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมาน เดมเบเล่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, บรัดเล่ย์ บาร์กโกล่า
  • โปแลนด์ (3-4-2-1): ลูคัส สโครุพสกี้ – ยาน เบ็ดนาเร็ค, พาเวล ดาวิโดวิช, ยาคุบ คิวิออร์ – เพรมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, ยาคุบ โมเดอร์, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, นิโกล่า ซาเลฟสกี้ – เซบาสเตียน ซีมานสกี้, แคชเปอร์ อูร์บานสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

การวิเคราะห์บอล ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์

เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทั้งสองทีมในด้านการป้องกันและการเล่นที่เข้มข้น

ฝรั่งเศส

  • จุดแข็ง: การเล่นของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่สร้างโอกาสในการทำประตูได้มากมาย การที่ อุสมาน เดมเบเล่ ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษนำไปสู่ประตูของเอ็มบัปเป้
  • จุดอ่อน: การจบสกอร์ที่ยังขาดความเฉียบคม และการป้องกันที่ต้องระมัดระวังในช่วงท้ายเกม

โปแลนด์

  • จุดแข็ง: การป้องกันที่เหนียวแน่นและการเซฟที่ยอดเยี่ยมของ ลูคัส สโครุพสกี้ การเล่นของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยังเป็นหัวใจของทีมและสามารถสร้างโอกาสได้
  • จุดอ่อน: การสร้างโอกาสในการทำประตูที่ยังไม่เพียงพอ และการเสียจุดโทษที่ไม่ควรเกิดขึ้น

สรุป: การเสมอในนัดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทั้งสองทีม แต่ทั้งสองทีมยังต้องปรับปรุงในด้านการจบสกอร์เพื่อให้มีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขันในรอบต่อไป โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่มีศักยภาพในการเล่นเกมรุกที่ดีกว่า ขณะที่โปแลนด์ต้องเสริมความแม่นยำในการสร้างโอกาสเพื่อไม่ให้พลาดการทำประตูในอนาคต

ดราม่า หลังจบการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 ที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก ประเทศไทย จบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติอิตาลีที่เอาชนะญี่ปุ่น 3-1 เซต

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024 ที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก ประเทศไทย จบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติอิตาลีที่เอาชนะญี่ปุ่น 3-1 เซต (25-17, 25-17, 21-25 และ 25-20) คว้าแชมป์สมัยที่สองในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตามเกิดกระแสดราม่าในช่วงพิธีมอบเหรียญรางวัล ที่มีการนำ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” มาเป็นผู้เชิญรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศ

มีแฟนลูกยางบางกลุ่มแสดงความไม่พอใจและมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรตินักกีฬาไทย โดยมีความคิดเห็นเช่น “รู้สึกแปลกๆ ทำไมต้องให้นักกีฬาของเรามาทำอะไรแบบนี้”, “นักกีฬาควรเป็นนักกีฬาไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้”, “สงสารนักกีฬาไทยต้องมาทำอะไรแบบนี้”, “แนวคิดของใครตลกมากๆ”, และ “ไม่ชอบสุดๆ นี่นักกีฬาทีมชาติไทยนะ”

ในขณะที่แฟนลูกยางอีกส่วนกลับชื่นชมไอเดียนี้ โดยมีความคิดเห็นเช่น “ประทับใจจริงๆ ไทยแลนด์ทำถึง”, “ไอเดียบรรเจิดเอาสาวไทยมาเชิญรางวัล”, “แนวคิดดีเอานักกีฬามาถือพานมอบเหรียญ”, และ “นักกีฬาไทยสวยบรรยากาศเต็มไปด้วยความน่ารัก”

สำหรับผลงานของ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” ในปีนี้ ชนะเพียงแค่ 3 เกม และแพ้ไปถึง 9 นัดจากการลงเล่น 12 นัด ทำให้จบอันดับ 13 ของตาราง

อย่างไรก็ตามยังได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับบราซิลในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยุติเส้นทางไว้ที่รอบ 8 ทีม

วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2024

ผลบอลยูโร 2024 กลุ่ม A สวิตเซอร์แลนด์ พบ เยอรมนี

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม A คู่ระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ พบกับ เยอรมนี ที่สนาม แฟร้งค์เฟิร์ต อารีน่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม A คู่ระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ พบกับ เยอรมนี ที่สนาม แฟร้งค์เฟิร์ต อารีน่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567

สรุปการแข่งขัน สวิตเซอร์แลนด์ พบ เยอรมนี

  • นาทีที่ 17
    เยอรมนีส่งบอลตุงตาข่ายจากการยิงของ โรเบิร์ต อันดริช แต่ VAR ไม่ให้เนื่องจากมีจังหวะฟาวล์ก่อนหน้า
  • นาทีที่ 28
    สวิตเซอร์แลนด์ออกนำ 1-0 จากการบุกของ เรโม่ ฟรอยเลอร์ ที่เปิดบอลให้ แดน เอ็นดอย ชาร์จเข้าประตู
  • นาทีที่ 50
    เยอรมนีเกือบตีเสมอ ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ จ่ายบอลให้ จามาล มูเซียล่า ยิงตรงตัว ยานน์ ซอมเมอร์
  • ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+2
    ดาวิด เราม์ เปิดบอลให้ นิคลาส ฟืลล์ครุก โขกเสียบตาข่าย ตีเสมอ 1-1

จบเกม เยอรมนีเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม โดย “อินทรีเหล็ก” เป็นที่หนึ่งของกลุ่ม ส่วน “ทัพนักเตะแดนนาฬิกา” เป็นอันดับสอง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมสวิตเซอร์แลนด์ พบ เยอรมนี

  • สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-2-1): ยานน์ ซอมเมอร์, ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อาคันจี, ริการ์โด้ โรดรีเกซ, ซิลวาน วิดเมอร์, เรโม่ ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาก้า, มิเชล แอบิสเชอร์, ฟาเบียน รีเดอร์, แดน เอ็นดอย, บรีล เอ็มโบโล่
  • เยอรมนี (4-2-3-1): มานูเอล นอยเออร์, โยชัว คิมมิช, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, โยนาธาน ทาห์, มักซิมิเลี่ยน มิตเทลชเตดท์, โรเบิร์ต อันดริช, โทนี่ โครส, จามาล มูเซียล่า, อิลคาย กุนโดอัน, ฟลอเรียน เวียร์ทซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์