รู้จัก “กฎ Must Carry” กลไกคุ้มครองสิทธิการรับชม ป้องกันการผูกขาดสื่อ

“กฎ Must Carry” เป็นข้อบังคับที่กำหนดให้ แพลตฟอร์มโทรทัศน์ทุกประเภท เช่น เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และแพลตฟอร์มดิจิทัล ต้องออกอากาศช่อง ฟรีทีวี โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

กฎ Must Carryเป็นข้อบังคับที่กำหนดให้ แพลตฟอร์มโทรทัศน์ทุกประเภท เช่น เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และแพลตฟอร์มดิจิทัล ต้องออกอากาศช่อง ฟรีทีวี โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และต้องเผยแพร่เนื้อหาตามผังรายการของสถานี โดยไม่มีการตัดต่อ ดัดแปลง หรือปิดกั้นเนื้อหาบางส่วน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

วัตถุประสงค์ของกฎ Must Carry

  1. คุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
    • เพื่อให้ประชาชนรับชมเนื้อหาที่จำเป็น เช่น ข่าว สารคดี หรือรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
  2. ส่งเสริมความหลากหลายของสื่อ
    • ป้องกันไม่ให้ช่องที่มีความสำคัญต่อสาธารณะถูกมองข้ามจากแพลตฟอร์มที่เน้นเฉพาะเนื้อหาที่ทำรายได้สูง
  3. ป้องกันการผูกขาดของผู้ให้บริการทีวี
    • ป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มเลือกเผยแพร่เฉพาะช่องที่มีผลกำไรสูงเท่านั้น

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับกฎ Must Carry

แม้ว่ากฎนี้จะช่วยให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างเท่าเทียม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่า อาจกระทบเสรีภาพทางธุรกิจ ของผู้ให้บริการแพร่ภาพกระจายเสียง เช่น

  • จำกัดทางเลือกในการบริหารธุรกิจของแพลตฟอร์มทีวี
  • สร้างความไม่เท่าเทียมในการแข่งขัน เพราะบางช่องอาจได้รับสิทธิพิเศษโดยไม่ต้องลงทุนทำตลาดเอง

บทสรุป

กฎ Must Carry เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนสามารถรับชมข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นโดยไม่มีข้อจำกัดด้านแพลตฟอร์ม แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับเสรีภาพของผู้ให้บริการ แต่เป้าหมายหลักคือ การส่งเสริมการเข้าถึงสื่ออย่างเท่าเทียม และป้องกันการผูกขาดในอุตสาหกรรมโทรทัศน์

หญิงวัย 38 รับสารภาพ กรณีอ้างท้องทิพย์ แต่ลูกหาย ในที่สุดไม่ใช่เรื่องจริง

ล่าสุดมีข้อสรุปจากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งครรภ์จริง หรือท้องทิพย์

กรณีที่หญิงวัย 38 ปี อ้างว่าตั้งครรภ์และฝากท้องที่โรงพยาบาลปทุมธานี ก่อนเกิดเหตุการณ์เด็กในครรภ์หายไปอย่างไร้คำอธิบาย ล่าสุดมีข้อสรุปจากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้ตั้งครรภ์จริง หรือท้องทิพย์

ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบทางการแพทย์

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีเปิดเผยว่า หญิงคนดังกล่าวเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล 15 ครั้ง แต่มีเพียง 4 ครั้งที่อ้างว่ามาฝากครรภ์ โดยเมื่อ ตรวจสอบ OPD การ์ด พบว่า มีเพียงครั้งเดียวที่พบแพทย์จริง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 แต่เป็นเพียงการรักษาอาการปวดเมื่อย คลื่นไส้ อาเจียน ไม่ใช่การฝากครรภ์

การตรวจครรภ์ที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 หลังพบว่าประจำเดือนขาด 2 เดือน ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์เพิ่งเริ่มขึ้น ไม่ใช่ระยะเวลา 9 เดือนตามที่อ้าง

คำให้การขัดแย้งของผู้กล่าวหา

ระหว่างแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ให้หญิงคนดังกล่าวชี้ตัวสูตินารีแพทย์ที่อ้างว่าตรวจครรภ์ให้ แต่เธอกลับระบุว่า ไม่มีแพทย์คนดังกล่าวในห้อง อย่างไรก็ตาม มีสูตินารีแพทย์รายหนึ่งยืนยันว่า ตนเป็นผู้ตรวจครรภ์ให้เมื่อเดือนมกราคม 2568 ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างที่ว่าตั้งครรภ์มาแล้ว 9 เดือน

หญิงวัย 38 รับสารภาพ ท้องทิพย์

ล่าสุด นางกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดคุยกับหญิงคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว โดยแจ้งให้เธอทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงและสร้างความวุ่นวายต่อรัฐ จนในที่สุด หญิงคนดังกล่าวยอมรับว่าไม่ได้ตั้งครรภ์จริง

อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยเหตุผลที่ทำไป

ผลกระทบจากเหตุการณ์ท้องทิพย์

กรณีนี้สร้างความเข้าใจผิดอย่างมากต่อสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องพิจารณาดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลปทุมธานีและกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะใช้กรณีนี้เป็นบทเรียนในการจัดการกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในอนาคต

สรุป ดราม่า ใหม่ ดาวิกา ปล่อยโฮ กลางงานอีเว้นท์

ใหม่ ดาวิกา เจ็บปวดปล่อยโฮปมข่าวทอดทิ้งพ่อ ย้อนภาพกับบรรยากาศบ้านที่เบลเยี่ยมครอบครัวคุณพ่อ

ข่าวฮอตวันนี้มาพร้อมกับดราม่าครอบครัวที่เข้มข้นจากนางเอกสาวใหม่ ดาวิกาที่ต้องเผชิญกับข่าวลืออื้อฉาวในประเด็นทอดทิ้งพ่อ จนทำให้เธอต้องออกมาชี้แจงความจริงอย่างเจ็บปวดในงานอีเวนต์เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังเรื่องราวครอบครัวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน


เปิดใจเจ็บปวด: “ใหม่ ดาวิกา” สะท้านวงการ

ในข่าวที่ทำให้แฟนคลับและสื่อสังเกตกันทั่วทั้งวงการ ใหม่ ดาวิกา ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวภายในครอบครัวที่มีความละเอียดอ่อน หลังจากข่าวลือ “มดวก. ทิ้งพ่อ?” เริ่มแพร่กระจาย เธอจึงต้องยืนหยัดเปิดใจชี้แจงให้แฟนๆ รับรู้ว่าเรื่องราวในครอบครัวของเธอไม่ได้เป็นไปในแบบที่ถูกเข้าใจผิด


เบื้องหลังความเจ็บปวด: ครอบครัวที่ผ่านพ้นความทุกข์

จากสาระสำคัญในคำให้สัมภาษณ์ใหม่ ดาวิกา เผยว่า:

  • เรื่องราวในวัยเด็ก: เมื่อเธออายุเพียง 10 ขวบ คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอได้หย่าร้างกัน หลังจากนั้นคุณพ่อได้ไปแต่งงานใหม่กับผู้ที่คุณแม่รู้จัก ทำให้เธอและคุณแม่ต้องเผชิญกับความลำบากทางการเงินในช่วงแรก
  • ความพยายามแห่งความรัก: เมื่อใหม่เริ่มทำงานและมีรายได้เพิ่มขึ้น เธอก็ได้ตัดสินใจติดต่อคุณพ่อและส่งเงินช่วยเหลือทุกเดือนเป็นเวลา 10 กว่าปี โดยมีจำนวนเงินเดือนละประมาณ 20,000-30,000 บาท พร้อมทั้งซื้อรถ 2 คันและบ้านหลังหนึ่งสำหรับคุณพ่อ แม้ว่าภายหลังบ้านดังกล่าวจะขายไปเพราะคุณพ่อไม่ได้นำไปอยู่อีกต่อไป
  • ความเจ็บปวดในทุกสายสัมพันธ์: แม้จะมีความพยายามดูแลและส่งเสริมคุณพ่อในด้านการเงิน แต่เธอกล่าวว่าทุกครั้งที่มีการติดต่อกลับจากคุณพ่อ คำสนทนามักเกี่ยวกับเรื่องเงินเป็นหลัก ทำให้เธอรู้สึกเสียใจและเลือกที่จะติดต่อกับเขาเฉพาะในเรื่องการส่งเงินเท่านั้น

เผยความจริงในงานอีเวนต์: ก้าวผ่านความเจ็บปวดด้วยความเข้มแข็ง

ในงานอีเวนต์ล่าสุด ใหม่ ดาวิกา ได้เปิดใจพูดถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เธอชี้แจงว่า

“คุณพ่อของฉันตอนนี้มีครอบครัวใหม่แล้ว ฉันจึงไม่ได้เป็นคนในครอบครัวอีกต่อไป”
คำพูดนี้สะท้อนความเจ็บปวดที่แฝงอยู่ในใจของเธอและเป็นการตอบโต้ข่าวลือที่ทำให้หลายคนสับสน นอกจากนี้ เธอยังเล่าถึงความห่วงใยต่อสุขภาพของคุณพ่อที่ต้องเผชิญกับโรคแอลกอฮอลลิซึ่มและอาการเสื่อมจากวัยที่เข้ามา ทั้งๆ ที่เธอยังคงพร้อมที่จะช่วยเหลือในช่วงเวลาที่คุณพ่อต้องการ


ภาพเก่าและความทรงจำ: เบลเยี่ยมกับครอบครัวคุณพ่อ

ย้อนกลับไปในอินสตาแกรมใหม่ ดาวิกา เคยเผยภาพความทรงจำที่เธอได้ไปเยี่ยมครอบครัวคุณพ่อที่เบลเยี่ยม พร้อมทั้งเผยภาพคู่คุณพ่อที่สื่อถึงความผูกพันในอดีต แม้ปัจจุบันความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป แต่ภาพเหล่านั้นยังคงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเธอกับคุณพ่อ และรายงานข่าวยังระบุว่าเธอเคยซื้อบ้านหลังงาทให้คุณพ่อในเมืองไทยอีกด้วย


คำขอโทษและขอบคุณจากใจ

ในโพสต์ชี้แจงล่าสุดใหม่ ดาวิกา ได้กล่าวขอโทษที่แฟนๆ และสื่อทุกฝ่ายต้องรับฟังเรื่องราวที่ไม่ดีในครอบครัวของเธอ พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและให้กำลังใจ เธอย้ำว่าปัญหาภายในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัวที่เจ็บปวดสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว


สรุปดราม่า “ใหม่ ดาวิกา”: ก้าวผ่านเรื่องราวด้วยความเข้มแข็ง

เรื่องราวของ “ใหม่ ดาวิกา”ในครั้งนี้ จึงเป็นอีกบทหนึ่งในดราม่าครอบครัวที่สื่อและแฟนคลับให้ความสนใจอย่างล้นหลาม แม้จะมีข่าวลืออื้อฉาวเข้ามาคลุมเครือ แต่เธอยืนหยัดเปิดใจเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งขอบคุณและขอโทษสำหรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในครอบครัว ทั้งนี้แฟนคลับต่างส่งกำลังใจให้เธอเข้มแข็งและก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปด้วยกัน

เหตุเครื่องบิน ชน เฮลิคอปเตอร์ทหารสหรัฐฯ คาดไม่มีผู้รอดชีวิต พบกล่องดำแล้ว

BBC รายงานว่า เกิดเหตุ เครื่องบินโดยสารของอเมริกันแอร์ไลน์ ชนกลางอากาศกับ เฮลิคอปเตอร์ทหารแบล็คฮอว์ก H-60 ขณะกำลังเข้าสู่ทางวิ่งที่ สนามบินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดเหตุ เครื่องบินโดยสารของอเมริกันแอร์ไลน์ ชนกลางอากาศกับ เฮลิคอปเตอร์ทหารแบล็คฮอว์ก H-60 ขณะกำลังเข้าสู่ทางวิ่งที่ สนามบินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 21:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถกู้ กล่องดำ ได้แล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ

รายละเอียดของเหตุการณ์เหตุเครื่องบินชนเฮลิคอปเตอร์

  • เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส โดยมี ผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรือ 4 คน
  • เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ก H-60 ของกองทัพสหรัฐฯ มี ทหาร 3 นาย
  • อุบัติเหตุครั้งนี้มี ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 67 คน ซึ่งทางการคาดว่า ไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิต
  • ถือเป็น อุบัติเหตุเครื่องบินพาณิชย์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2552

มีนักกีฬาสเก็ตระดับโลกอยู่บนเหตุเครื่องบินชนเฮลิคอปเตอร์

มีรายงานว่าผู้โดยสารบางส่วนเป็นบุคคลสำคัญในวงการกีฬา ได้แก่

  • สเปนเซอร์ เลน และ จินนา ฮาห์น นักสเก็ตชายหญิงวัย 16 ปี
  • คริสติน เลน และ จิน ฮาห์น คุณแม่ของทั้งคู่
  • เยฟจีเนีย ซิสโควา และ วาดิม นอมอฟ โค้ชชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกและเป็นคู่สามีภรรยา

ความคืบหน้าล่าสุด

ทาง คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ได้กู้กล่องดำของเครื่องบินสำเร็จ และกำลังวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ต่อไป

ตำรวจไซเบอร์จับศิลปินดัง โพสต์โฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจสอบพบว่า ศิลปินนักร้องรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานเพลงบน YouTube มียอดวิวกว่า 200 ล้านวิว โพสต์โฆษณาชักชวนให้เล่น การพนันออนไลน์ พร้อมแนบลิงก์เว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจสอบพบว่า ศิลปินนักร้องรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานเพลงบน YouTube มียอดวิวกว่า 200 ล้านวิว และมีผู้ติดตามบน Facebook กว่า 400,000 คน ได้โพสต์โฆษณาชักชวนให้เล่น การพนันออนไลน์ พร้อมแนบลิงก์เว็บพนัน

นักร้องดัง 200 ล้านวิว ถูกตำรวจไซเบอรจับ

จากการสืบสวนพบว่า พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขอศาลออกหมายเรียก นายชยธร ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว รับทราบข้อกล่าวหา ฐาน “ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันในการเล่นซึ่งไม่ได้รับอนุญาต”

รับสารภาพ โพสต์โฆษณาหวังค่าตอบแทน

วันที่ 27 มกราคม 2568 นายชยธรได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ใช้ Facebook ดังกล่าวจริง และได้รับการติดต่อให้โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ อ้างว่ามีรายได้ดี จึงโพสต์แนบลิงก์เว็บพนันใน สตอรี่ Facebook เพื่อหวังค่าตอบแทน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวส่งฟ้องศาลแขวง พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เตือนภัย! โฆษณาพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย เสี่ยงโทษหนัก

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ฯ เน้นย้ำว่า “การโฆษณาชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วย” พร้อมเตือนประชาชนให้ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชักชวน ไม่ว่าจะเป็นการเชิญให้โฆษณาหรือเข้าร่วมเล่นพนัน เนื่องจาก “ทั้งผู้โพสต์โฆษณาและผู้เล่นพนันออนไลน์ ไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย”

ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ได้ที่ สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือ เว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยกันป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ในสังคม

วิธีแจ้งเหตุไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ. ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดยมีระยะเวลาการแจ้งแบ่งเป็นสองช่วง ได้แก่

  • ก่อนวันเลือกตั้ง : 25-31 มกราคม 2568
  • หลังวันเลือกตั้ง : 2-8 กุมภาพันธ์ 2568

การแจ้งเหตุสามารถทำได้ผ่าน แบบ ส.ถ./ผ.ถ. 1/8 ตามช่องทางที่กำหนด

ช่องทางการแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

1. แจ้งเหตุผ่านไปรษณีย์หรือยื่นเอกสารด้วยตนเอง

  • ทำเป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือ นายทะเบียนท้องถิ่น
  • สามารถยื่นด้วยตนเอง หรือมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทน
  • ระบุข้อมูลสำคัญ ได้แก่ หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

2. แจ้งเหตุผ่านช่องทางออนไลน์

  • เว็บไซต์ กกต. : www.ect.go.th
  • แอปพลิเคชัน Smart Vote (รองรับทั้ง Android และ iOS)
  • เว็บไซต์สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย : www.bora.dopa.go.th

ผลกระทบหากไม่ไปเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุ

หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิและไม่ได้แจ้งเหตุ หรือแจ้งแล้วแต่เหตุผลไม่สมควร อาจถูก จำกัดสิทธิ เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งรวมถึงสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น

  1. สมัครเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), สมาชิกสภาท้องถิ่น (ส.ถ.), ผู้บริหารท้องถิ่น (ผ.ถ.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
  2. สมัครเป็น กำนันและผู้ใหญ่บ้าน
  3. เข้าชื่อร้องขอถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
  4. ดำรงตำแหน่ง ข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
  5. ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
  6. ดำรงตำแหน่ง เลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. ได้ที่

  • เว็บไซต์ กกต. : www.ect.go.th
  • แอปพลิเคชัน Smart Vote
  • สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด
  • สายด่วน กกต. โทร. 1444

การแจ้งเหตุไม่สามารถไปเลือกตั้งเป็นสิทธิและหน้าที่ที่สำคัญของประชาชน เพื่อป้องกันการถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองในอนาคต

พยากรณ์อากาศประเทศไทย วันนี้ 13 มกราคม 2568

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ พร้อมลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดลดลงถึง 16 องศาเซลเซียส


รายละเอียดอุณหภูมิและสภาพอากาศรายภูมิภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 7-14 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 24-29 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด พร้อมลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 6-13 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 23-27 องศาเซลเซียส
  • ยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-17 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-29 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 27-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นตอนบน ฝนฟ้าคะนองบางแห่งตอนล่าง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 17-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 28-32 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 16-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-31 องศาเซลเซียส

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  1. ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นถึงหนาว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
  2. ระวังอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง
  3. ชาวเรือควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

สภาพการระบายอากาศดีขึ้นจากลมแรง ทำให้ฝุ่นละอองในประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง

สภาพอากาศวันนี้

เปิดใจเจ้าของ รอดพ้นไฟป่าลอสแอนเจลิส

ในขณะที่ ไฟป่าลอสแอนเจลิส ยังคงสร้างความเสียหายรุนแรง บ้านเรือนในพื้นที่ชายฝั่ง “มาลิบู” ถูกเผาผลาญจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง

ในขณะที่ ไฟป่าลอสแอนเจลิส ยังคงสร้างความเสียหายรุนแรง บ้านเรือนในพื้นที่ชายฝั่ง “มาลิบู” ถูกเผาผลาญจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่บ้านหรูหลังหนึ่งที่ถูกขนานนามว่า “บ้านปาฏิหาริย์” กลับรอดพ้นจากมหันตภัยนี้อย่างน่าอัศจรรย์


เบื้องหลังความรอดของบ้านปาฏิหาริย์

บ้านหลังนี้เป็นของ เดวิด สไตเนอร์ วัย 64 ปี อดีตผู้บริหารระดับสูงในเท็กซัส หลังเกษียณเขาได้สร้างบ้านริมชายฝั่งมูลค่ากว่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 312 ล้านบาท) เพื่อพักอาศัยและใช้ชีวิตอย่างสงบ

เมื่อไฟป่าลุกลามเข้าใกล้ สไตเนอร์และครอบครัวจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ทันที แต่ไม่นานเขาก็ได้รับข่าวจากเพื่อนว่าบ้านของเขาเป็นหลังเดียวในย่านนั้นที่รอดพ้นจากไฟป่าได้


3 กุญแจสำคัญที่ช่วยบ้านรอดจากไฟป่า

สไตเนอร์เปิดเผยถึง 3 ปัจจัยหลักที่ช่วยให้บ้านของเขาสามารถทนทานต่อไฟป่าครั้งรุนแรงนี้ได้

  1. ฐานรากลึก
    • บ้านถูกออกแบบด้วยเสาเข็มลึกถึง 50 ฟุต (15.24 เมตร) จนถึงชั้นหินแข็งใต้ดิน ทำให้โครงสร้างมั่นคงและลดความเสี่ยงในการพังทลาย
  2. วัสดุทนไฟ
    • ต่างจากบ้านหรูทั่วไปในพื้นที่ที่มักใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก บ้านของสไตเนอร์สร้างด้วย ปูนฉาบและหิน ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟ
  3. หลังคาป้องกันไฟ
    • หลังคาบ้านถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ ซึ่งมักเป็นสาเหตุให้ไฟป่าลามเข้าไปในตัวบ้าน

บทเรียนและมุมมองของเจ้าของบ้าน

สไตเนอร์กล่าวว่า แม้จะออกแบบบ้านให้ทนต่อแผ่นดินไหว แต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเผชิญกับไฟป่าขนาดนี้ “ผมคิดเสมอว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหว บ้านผมน่าจะเป็นหลังสุดท้ายที่พัง แต่เมื่อเกิดไฟป่า ผมรู้สึกประหลาดใจที่บ้านยังยืนหยัดได้จนถึงที่สุด”

เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการใช้วัสดุทนไฟและการออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อช่วยลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติในอนาคต

สภาพอากาศวันนี้ 3 ม.ค. 68

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้อุณหภูมิในหลายพื้นที่ลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

พยากรณ์อากาศวันนี้ ไทยตอนบนเย็นลง 1-2 องศา กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา

วันที่ 3 มกราคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาเผย มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้อุณหภูมิในหลายพื้นที่ลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า

ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงเช่นกัน โดยมี อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยในภาคเหนือจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส และอาจมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่


พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 13-16 องศาเซลเซียส
  • ยอดดอยหนาวจัด: 4-10 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาว
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 12-18 องศาเซลเซียส
  • ยอดภูหนาวจัด: 8-14 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 18-20 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 18-23 องศาเซลเซียส
  • ทะเลคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นตอนบน มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 20-23 องศาเซลเซียส
  • ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 20-22 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ข้อควรระวัง

  • ประชาชนในพื้นที่หนาวเย็นควรดูแลสุขภาพ
  • ระมัดระวังอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้ง
  • ชาวเรือควรระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

เลขเด็ดจากปฏิทินจีน งวดวันที่ 2 มกราคม 2568

เลขปฏิทินจีน ที่มักจะให้แนวทางเลขเด็ดในหลายงวดที่ผ่านมา สำหรับ หวยงวดนี้ (2/1/68)

เหล่าคอหวยและนักเสี่ยงโชคยังคงให้ความสนใจกับ เลขปฏิทินจีน ที่มักจะให้แนวทางเลขเด็ดในหลายงวดที่ผ่านมา สำหรับ หวยงวดนี้ (2/1/68) ผู้ใช้ TikTok บัญชี nid8857 ได้เผยภาพจากปฏิทินจีนจำนวน 3 ฉบับ โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้:


ตัวเลขจากปฏิทินจีน 

  1. ฉบับที่ 1: 1, 4, 6, 7
  2. ฉบับที่ 2: 2, 5, 8
  3. ฉบับที่ 3: 3, 4, 9

เลขที่คาดว่าโดดเด่นในหวยงวดนี้

  • เลข 2 ตัว: 14, 16, 47, 58, 39
  • เลข 3 ตัว: 146, 258, 349