พยากรณ์อากาศวันนี้ 26 พ.ค. 2568 ฝนถล่ม 71 จังหวัด!

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 71 จังหวัด 26 พ.ค. 2568 กรุงเทพฯ ฝนร้อยละ 80 เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม คลื่นลมทะเลแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เตือนทั่วไทยยังคงเผชิญ ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนมากถึง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ พร้อมเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่มในหลายจุดทั่วประเทศ


เตือนภัยฝนตกหนัก-ฝนสะสม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 71 จังหวัด

ประชาชนในพื้นที่ ภาคเหนือ, อีสาน, กลาง, ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ควรระวังฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิด น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณ พื้นที่ลาดเชิงเขา-พื้นที่ลุ่มต่ำ

ภัยที่ต้องระวัง

  • น้ำท่วมขังระยะสั้นในเขตเมือง
  • เส้นทางเดินทางเสี่ยงอุบัติเหตุจากน้ำหลาก
  • เกษตรกรควรเร่ง ปรับระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันความเสียหาย

ทะเล-เรือเล็กระวัง! อันดามันคลื่นสูง 2 เมตร

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ทะเลมี คลื่นสูง 1–2 เมตร โดยเฉพาะ ทะเลอันดามันตอนบน คลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร และอาจสูงเกินกว่า 2 เมตรในจุดที่มีฝนฟ้าคะนอง

เรือเล็กงดออกจากฝั่งในทะเลอันดามันตอนบน


รายงานฝนวันนี้: ฝนถล่มหนักเกือบทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักบางแห่ง
  • อุณหภูมิ 24–33°C
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10–20 กม./ชม.

ภาคเหนือ

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • อุณหภูมิ 22–34°C

ภาคอีสาน

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • อุณหภูมิ 22–34°C

ภาคกลาง

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • อุณหภูมิ 24–34°C

ภาคตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • ทะเลคลื่นสูง 1–2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60
  • ฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • คลื่นสูง 1–2 เมตร หรือมากกว่า 2 เมตรในฝนฟ้าคะนอง

ข้อแนะนำ

  • หลีกเลี่ยงเดินทางเส้นทางที่มีน้ำท่วมประจำ
  • งดออกเรือหากมีฝนฟ้าคะนอง
  • เกษตรกรควรเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

สภาพอากาศวันนี้ 14 พ.ค. 2568

พยากรณ์อากาศวันนี้ 14 พ.ค. 2568 — ฝนถล่ม 46 จังหวัด! กทม.โดนเต็มๆ ฝนตกหนัก 70% ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศวันนี้ 14 พ.ค. 2568 — ฝนถล่ม 46 จังหวัด! กทม.โดนเต็มๆ ฝนตกหนัก 70% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคใต้ที่ต้องรับมือกับฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักถึง 70% ของพื้นที่ เสี่ยงน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากในจุดลุ่มต่ำและพื้นที่ลาดเชิงเขา


พื้นที่ที่ต้องระวังวันนี้

  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนตกหนัก 70% ของพื้นที่
  • ภาคกลาง: อยุธยา ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสาคร
  • ภาคตะวันออก: ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตกและตะวันออก: ฝนถล่มหลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ฯ
  • ภาคเหนือ-อีสาน: แม่ฮ่องสอน ตาก ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลฯ ฯลฯ

คำแนะนำจากกรมอุตุฯ

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างไม่มั่นคง
  • ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควร ระวังคลื่นสูง 1-2 เมตร (มากกว่า 2 เมตรเมื่อมีฝนฟ้าคะนอง)
  • เกษตรกรควรรีบป้องกันความเสียหายต่อพืชผลและสัตว์เลี้ยง
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางน้ำท่วมซ้ำซาก

คาดการณ์ฝนในกรุงเทพฯ

  • ฝนตกหนัก 70% ของพื้นที่
  • อุณหภูมิสูงสุดวันนี้: 32–33 องศาเซลเซียส
  • ลมใต้พัดแรง 10–20 กม./ชม.

แม้จะยังอยู่ในช่วงฤดูร้อน แต่ฝนเริ่มมาเยือนอย่างจริงจังแล้วในหลายพื้นที่ ผู้ที่มีแพลนเดินทางในวันนี้อย่าลืม ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน และ พกร่มหรือเสื้อกันฝน ติดตัวไว้ตลอดวัน เพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องเปียกฝนระหว่างวัน!

พยากรณ์อากาศ 13 พ.ค. 2568

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพยากรณ์อากาศทั่วไทยรับมือฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก โดยเฉพาะ 47 จังหวัดที่มีโอกาสเจอฝนถล่มและลมกระโชกแรง

วันนี้ (13 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพยากรณ์อากาศทั่วไทยรับมือฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนัก โดยเฉพาะ 47 จังหวัดที่มีโอกาสเจอฝนถล่มและลมกระโชกแรง เสี่ยงน้ำท่วมขังเฉียบพลัน โดย กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนตกหนักถึง 70% ของพื้นที่


พายุฝนมาเพราะอะไร?

อากาศแปรปรวนเกิดจาก

  • ลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ พาความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้าปกคลุม
  • บวกกับ อากาศร้อนจัดในประเทศไทยตอนบน
    ทำให้เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะ ลุ่มต่ำ-พื้นที่ระบายน้ำยาก

พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม/ฝนตกหนักวันนี้

  • ภาคกลาง: อยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร ฯลฯ (ฝนตก 70%)
  • ภาคตะวันออก: ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด (ฝนตก 80%)
  • ภาคใต้: เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ฯลฯ (ฝนตก 70%)
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนตกหนัก 70% ของพื้นที่

คำแนะนำ

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หรือป้ายโฆษณาที่ไม่มั่นคง
  • เกษตรกรควรเสริมค้างไม้ผล และป้องกันสัตว์เลี้ยง
  • ชาวเรือหลีกเลี่ยงออกเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สภาพอากาศแบบนี้ อาจทำให้ฝุ่นละอองลดลงในบางพื้นที่ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ใครมีแพลนเดินทางหรือกิจกรรมนอกบ้านวันนี้ พกร่มและตรวจสภาพอากาศล่วงหน้าไว้ก่อนดีที่สุด

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2568

กรมอุตุฯ เตือนพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง หลายพื้นที่ทั่วไทย เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน 9–12 พ.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง หลายพื้นที่ทั่วไทย เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน 9–12 พ.ค.นี้

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะเดียวกันมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งจากลมใต้และตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ ต้องระวังอันตรายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

ส่วนภาคใต้มีแนวโน้มฝนลดลงในบางพื้นที่ แต่ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะบริเวณลาดเชิงเขา


พายุฤดูร้อนเริ่มพรุ่งนี้ (9 พ.ค.)

กรมอุตุฯ เตือนล่วงหน้า ช่วงวันที่ 9–12 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะได้รับผลกระทบจาก พายุฤดูร้อน ที่เกิดจากอากาศร้อนปะทะมวลอากาศเย็นจากจีน ซึ่งจะทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง และฟ้าผ่า โดยเริ่มกระทบภาคอีสานก่อน และลามไปยังภาคอื่นๆ ในระยะถัดไป


พื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลมแรงในวันนี้

  • ภาคเหนือ: เชียงใหม่, ตาก, กำแพงเพชร, สุโขทัย, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย, หนองคาย, อุดรธานี, นครราชสีมา, ชัยภูมิ
  • ภาคกลาง: นครสวรรค์, อุทัยธานี, ลพบุรี, สระบุรี, ราชบุรี
  • ภาคตะวันออก: ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ ช่วงบ่ายถึงเย็น

คำแนะนำประชาชน

  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
  • เกษตรกรควรเตรียมป้องกันผลผลิตจากลมแรงและฝนตกหนัก
  • ชาวเรือและผู้ประกอบการชายฝั่งควรระวังคลื่นสูง โดยเฉพาะช่วงมีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศวันนี้ ร้อนจัด-ฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศ “ร้อนสลับฝน” ทั่วไทย โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่ยังคงเผชิญกับอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะที่หลายจังหวัดจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศ “ร้อนสลับฝน” ทั่วไทย โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่ยังคงเผชิญกับอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะที่หลายจังหวัดจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า เกิดขึ้นในช่วงบ่ายถึงค่ำ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างไม่แข็งแรง


พยากรณ์อากาศวันนี้ ทั่วไทยร้อนจัดบางพื้นที่

  • อุณหภูมิสูงสุดแตะ 39 องศาเซลเซียส หลายจังหวัดทั่วไทย เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา กาญจนบุรี และกรุงเทพฯ
  • อากาศร้อนชื้น จากหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ร้อนอบอ้าว และเกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ง่ายในช่วงเย็น

เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง 40 จังหวัด

พื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง 30–70% ของพื้นที่

  • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, ตาก, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี
  • ภาคกลาง: อุทัยธานี, กาญจนบุรี, นครปฐม, สมุทรสงคราม
  • ภาคตะวันออก: นครนายก, ปราจีนบุรี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด
  • ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน: ชุมพร, นครศรีธรรมราช, สงขลา, พังงา, ภูเก็ต, ตรัง, สตูล

 ภาคใต้เจอฝนหนัก – คลื่นลมแรง

  • ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามันยังมี ฝนตกหนักบางแห่ง
  • คลื่นลมทะเลสูงถึง 2 เมตร ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
  • ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงนี้ และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฝนตกฟ้าคะนอง
  • เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อ่อนไหวต่อฝน
  • ควรตรวจสอบป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพปลอดภัย
  • ระวังปริมาณฝุ่นละออง โดยเฉพาะภาคอีสานตอนบน ที่แนวโน้มสะสมในระดับสูง

พยากรณ์อากาศ 31 จังหวัดเตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง 23-25 ก.พ.

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยตอนบน จะเผชิญกับ พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และบางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกในระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568

สภาพอากาศวันนี้

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยตอนบน จะเผชิญกับ พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และบางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกในระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นเข้ามาจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย

พื้นที่ได้รับผลกระทบ

  • ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีโอกาสเกิด พายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ลมแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
  • ภาคกลางและภาคตะวันออก: ฝนตกหนักในบางพื้นที่
  • ภาคใต้: มีฝนเพิ่มขึ้น โดยบางจุดอาจมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • ทะเลอ่าวไทยตอนล่าง: คลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  • เฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
  • เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร
  • ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

  • ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน: ค่าฝุ่นละอองและหมอกควันมีแนวโน้มสะสมมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศนิ่ง ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

สรุป: สภาพอากาศทั่วไทยยังคงแปรปรวน โดยเฉพาะช่วง 23-25 ก.พ. ที่ต้องเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงในหลายพื้นที่ เตรียมพร้อมรับมือ และติดตามการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด!

กรมอุตุ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีน ได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า ในหลายพื้นที่ ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาวตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 14-22°C | สูงสุด 33-38°C

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2°C
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-23°C | สูงสุด 33-36°C

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อากาศร้อนตอนกลางวัน
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-24°C | สูงสุด 34-37°C

ภาคตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25°C | สูงสุด 30-35°C
  • ทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย)

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25°C | สูงสุด 31-35°C
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร | ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน)

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-26°C | สูงสุด 32-36°C
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร | ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 25-27°C | สูงสุด 31-35°C

คำแนะนำและข้อควรระวัง

  • ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
  • เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายของผลผลิต จากฝนฟ้าคะนองและลมแรง
  • ชาวเรืออ่าวไทยและอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สถานการณ์ฝุ่นละออง

  • การสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันใน ภาคเหนือและภาคกลาง อยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมพัดปกคลุมกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศประเทศไทย วันนี้ 13 มกราคม 2568

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ พร้อมลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดลดลงถึง 16 องศาเซลเซียส


รายละเอียดอุณหภูมิและสภาพอากาศรายภูมิภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 7-14 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 24-29 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด พร้อมลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 6-13 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 23-27 องศาเซลเซียส
  • ยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-17 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-29 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 27-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นตอนบน ฝนฟ้าคะนองบางแห่งตอนล่าง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 17-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 28-32 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 16-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-31 องศาเซลเซียส

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  1. ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นถึงหนาว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
  2. ระวังอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง
  3. ชาวเรือควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

สภาพการระบายอากาศดีขึ้นจากลมแรง ทำให้ฝุ่นละอองในประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง

สภาพอากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศ ประเทศไทย 14 – 20 ธันวาคม 2567

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2567 พบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญทั่วประเทศ

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2567 พบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญทั่วประเทศ โดยมีฝนตกหนักในระยะแรก และอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว สูงสุดถึง 7 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่

อุณหภูมิลดลงทั่วไทย: 14 – 17 ธ.ค.

  • มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุม ส่งผลให้อุณหภูมิลดลง
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส
  • ภาคเหนือและกรุงเทพฯ: ลดลง 3 – 6 องศาเซลเซียส
  • มีฝนตกในระยะแรก ก่อนอากาศจะเย็นลง

ฝนตกหนักในภาคใต้: 14 – 16 ธ.ค.

  • มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น พร้อมหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่าน
  • ฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก
  • คลื่นลมแรงในอ่าวไทย คลื่นสูง 2 – 3 เมตร (บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงกว่า 3 เมตร)
  • ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นซัดฝั่ง

อากาศหนาว: 18 – 20 ธ.ค.

  • อุณหภูมิในประเทศไทยตอนบนจะเริ่มสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส
  • ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า พร้อมหมอกบาง

ข้อควรระวัง

  1. พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: ระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรง
  2. พื้นที่ประเทศไทยตอนบน: ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นและแห้ง ระวังอัคคีภัย
  3. ชาวเรือในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน: เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง
  4. พื้นที่หมอกหนา: ระมัดระวังการสัญจรในช่วงเช้า

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • สามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและปรับแผนการเดินทางหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งตามสภาพอากาศในพื้นที่ที่ท่านอยู่

ออกประกาศเมื่อ: 14 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 น.

อุตุ เตือน ฝนตกหนัก-ลมแรง 26-28 ส.ค. 67 ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567

ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

สาเหตุของสภาพอากาศแปรปรวน

สภาพอากาศในช่วงนี้เกิดจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งมีกำลังแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศเมียนมา

คลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทย

ในช่วงวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2567 คาดว่าทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และทะเลอันดามันตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร สำหรับชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับประชาชน

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระมัดระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ควรติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

อ่านข่าวเต็มๆ พยากรณ์อากาศวันนี้