พยากรณ์อากาศวันนี้ ร้อนจัด-ฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศ “ร้อนสลับฝน” ทั่วไทย โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่ยังคงเผชิญกับอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะที่หลายจังหวัดจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศ “ร้อนสลับฝน” ทั่วไทย โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่ยังคงเผชิญกับอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะที่หลายจังหวัดจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า เกิดขึ้นในช่วงบ่ายถึงค่ำ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างไม่แข็งแรง


พยากรณ์อากาศวันนี้ ทั่วไทยร้อนจัดบางพื้นที่

  • อุณหภูมิสูงสุดแตะ 39 องศาเซลเซียส หลายจังหวัดทั่วไทย เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา กาญจนบุรี และกรุงเทพฯ
  • อากาศร้อนชื้น จากหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ร้อนอบอ้าว และเกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ง่ายในช่วงเย็น

เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง 40 จังหวัด

พื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง 30–70% ของพื้นที่

  • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, ตาก, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี
  • ภาคกลาง: อุทัยธานี, กาญจนบุรี, นครปฐม, สมุทรสงคราม
  • ภาคตะวันออก: นครนายก, ปราจีนบุรี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด
  • ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน: ชุมพร, นครศรีธรรมราช, สงขลา, พังงา, ภูเก็ต, ตรัง, สตูล

 ภาคใต้เจอฝนหนัก – คลื่นลมแรง

  • ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามันยังมี ฝนตกหนักบางแห่ง
  • คลื่นลมทะเลสูงถึง 2 เมตร ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
  • ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงนี้ และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฝนตกฟ้าคะนอง
  • เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อ่อนไหวต่อฝน
  • ควรตรวจสอบป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพปลอดภัย
  • ระวังปริมาณฝุ่นละออง โดยเฉพาะภาคอีสานตอนบน ที่แนวโน้มสะสมในระดับสูง

พยากรณ์อากาศ 31 จังหวัดเตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง 23-25 ก.พ.

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยตอนบน จะเผชิญกับ พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และบางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกในระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568

สภาพอากาศวันนี้

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยตอนบน จะเผชิญกับ พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และบางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกในระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นเข้ามาจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย

พื้นที่ได้รับผลกระทบ

  • ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีโอกาสเกิด พายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ลมแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
  • ภาคกลางและภาคตะวันออก: ฝนตกหนักในบางพื้นที่
  • ภาคใต้: มีฝนเพิ่มขึ้น โดยบางจุดอาจมี ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • ทะเลอ่าวไทยตอนล่าง: คลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  • เฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
  • เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร
  • ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

  • ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน: ค่าฝุ่นละอองและหมอกควันมีแนวโน้มสะสมมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศนิ่ง ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

สรุป: สภาพอากาศทั่วไทยยังคงแปรปรวน โดยเฉพาะช่วง 23-25 ก.พ. ที่ต้องเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงในหลายพื้นที่ เตรียมพร้อมรับมือ และติดตามการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด!

กรมอุตุ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัด ฝนตกหนัก กทม. โดนด้วย – อุณหภูมิลดลงหลังฝนผ่าน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีน ได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะมี ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่า ในหลายพื้นที่ ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศรายภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาวตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 14-22°C | สูงสุด 33-38°C

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2°C
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-23°C | สูงสุด 33-36°C

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อากาศร้อนตอนกลางวัน
  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร
  • อุณหภูมิต่ำสุด 18-24°C | สูงสุด 34-37°C

ภาคตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-25°C | สูงสุด 30-35°C
  • ทะเลคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย)

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา
  • อุณหภูมิต่ำสุด 21-25°C | สูงสุด 31-35°C
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร | ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน)

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-26°C | สูงสุด 32-36°C
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร | ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 25-27°C | สูงสุด 31-35°C

คำแนะนำและข้อควรระวัง

  • ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
  • เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายของผลผลิต จากฝนฟ้าคะนองและลมแรง
  • ชาวเรืออ่าวไทยและอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สถานการณ์ฝุ่นละออง

  • การสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันใน ภาคเหนือและภาคกลาง อยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมพัดปกคลุมกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศประเทศไทย วันนี้ 13 มกราคม 2568

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ พร้อมลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดลดลงถึง 16 องศาเซลเซียส


รายละเอียดอุณหภูมิและสภาพอากาศรายภูมิภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 7-14 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 24-29 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด พร้อมลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 6-13 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 23-27 องศาเซลเซียส
  • ยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-17 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-29 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 27-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นตอนบน ฝนฟ้าคะนองบางแห่งตอนล่าง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 17-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 28-32 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 16-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-31 องศาเซลเซียส

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  1. ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นถึงหนาว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
  2. ระวังอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง
  3. ชาวเรือควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

สภาพการระบายอากาศดีขึ้นจากลมแรง ทำให้ฝุ่นละอองในประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง

สภาพอากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศ ประเทศไทย 14 – 20 ธันวาคม 2567

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2567 พบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญทั่วประเทศ

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2567 พบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญทั่วประเทศ โดยมีฝนตกหนักในระยะแรก และอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว สูงสุดถึง 7 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่

อุณหภูมิลดลงทั่วไทย: 14 – 17 ธ.ค.

  • มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุม ส่งผลให้อุณหภูมิลดลง
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส
  • ภาคเหนือและกรุงเทพฯ: ลดลง 3 – 6 องศาเซลเซียส
  • มีฝนตกในระยะแรก ก่อนอากาศจะเย็นลง

ฝนตกหนักในภาคใต้: 14 – 16 ธ.ค.

  • มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น พร้อมหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่าน
  • ฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก
  • คลื่นลมแรงในอ่าวไทย คลื่นสูง 2 – 3 เมตร (บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงกว่า 3 เมตร)
  • ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นซัดฝั่ง

อากาศหนาว: 18 – 20 ธ.ค.

  • อุณหภูมิในประเทศไทยตอนบนจะเริ่มสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส
  • ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า พร้อมหมอกบาง

ข้อควรระวัง

  1. พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: ระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรง
  2. พื้นที่ประเทศไทยตอนบน: ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นและแห้ง ระวังอัคคีภัย
  3. ชาวเรือในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน: เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง
  4. พื้นที่หมอกหนา: ระมัดระวังการสัญจรในช่วงเช้า

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • สามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและปรับแผนการเดินทางหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งตามสภาพอากาศในพื้นที่ที่ท่านอยู่

ออกประกาศเมื่อ: 14 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 น.

อุตุ เตือน ฝนตกหนัก-ลมแรง 26-28 ส.ค. 67 ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567

ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรง โดยมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

สาเหตุของสภาพอากาศแปรปรวน

สภาพอากาศในช่วงนี้เกิดจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งมีกำลังแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศเมียนมา

คลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทย

ในช่วงวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2567 คาดว่าทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และทะเลอันดามันตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร สำหรับชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับประชาชน

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระมัดระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ควรติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

อ่านข่าวเต็มๆ พยากรณ์อากาศวันนี้

พยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนถล่ม 36 จังหวัด ภาคเหนืออ่วม

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่าภาคเหนือตอนบนจะมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่

วันนี้ 22 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่าภาคเหนือตอนบนจะมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดยเฉพาะฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุฯ เตือนประชาชนในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ตั้งอยู่บริเวณลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ

สาเหตุของฝนตกหนัก

ฝนตกหนักในวันนี้เกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน นอกจากนี้ยังมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

คำแนะนำสำหรับชาวเรือ

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 1 เมตร กรมอุตุฯ ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเพื่อความปลอดภัย

พยากรณ์อากาศ 20 พฤษภาคม 2567

วันนี้ (20 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง

วันนี้ (20 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง (รวมถึงกรุงเทพฯ) ภาคตะวันออก และภาคใต้ คลื่นลมในทะเลอันดามันสูง 1-2 เมตร และสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ช่วงวันที่ 22-26 พ.ค. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำในอ่าวเบงกอลตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักในบางแห่ง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ชาวเรือในทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือ ส่วนอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อ่านเพิ่มเติม ข่าวพยากรณ์อากาศ