ตำรวจหญิง และลูกสาว เสียชีวิตในบ้าน คาดเกิดจากโซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของโซดาไฟ หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงและสามารถปล่อยก๊าซพิษต่างๆ

เหตุการณ์เศร้าสลด

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุสลดที่บ้านพักในตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อพบผู้เสียชีวิต 3 รายภายในบ้าน โดยทั้งหมดเป็นผู้หญิง ซึ่งรวมถึง ร.ต.อ.(หญิง) อนัญญา อายุ 60 ปี รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี และลูกสาวทั้งสองคน คือ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ อายุ 34 ปี และ น.ส.ปัณณิกา อายุ 25 ปี ภายในบ้านยังพบขวด สารเคมีน้ำยาล้างท่ออุดตัน หรือ โซดาไฟ ตกอยู่

การตรวจสอบและสาเหตุที่เป็นไปได้

พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ. 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบสารเคมีโซดาไฟซึ่งเป็นสารที่อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั้งสามราย โดยขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมและยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง

อันตรายจากการใช้โซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของโซดาไฟ หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงและสามารถปล่อยก๊าซพิษต่างๆ ได้เมื่อเกิดปฏิกิริยากับสารเคมีอื่น การใช้โซดาไฟในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดีอาจทำให้เกิดการสะสมของก๊าซพิษและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้

ข้อควรระวังในการใช้โซดาไฟ

ศูนย์พิษวิทยาศิริราชแนะนำวิธีการใช้โซดาไฟอย่างปลอดภัย:

  1. ระบายอากาศ: ควรแน่ใจว่ามีการไหลเวียนของอากาศที่ดีโดยเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมระบายอากาศ
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสและการสูดดม: สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตานิรภัย และหน้ากากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
  3. ไม่ควรผสมสารเคมีหลายชนิด: ห้ามผสมโซดาไฟกับสารเคมีอื่นที่มีฤทธิ์ต่างกัน เช่น น้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนีย
  4. เก็บรักษาอย่างระมัดระวัง: เก็บโซดาไฟในที่เย็นและแห้ง ห่างจากสารเคมีอื่นๆ และพ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ความคืบหน้าของการสืบสวน

เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า แม่ผู้เสียชีวิตได้ขอให้ไปซื้อโซดาไฟมาใช้ล้างท่อที่อุดตันในห้องน้ำ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากการสูดดมสารเคมีดังกล่าวในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี ตำรวจและเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

วิกฤตชามตราไก่ จีนทุ่ม ทำขายใบละ 5 บาท กระทบไทยหนัก

ชามตราไก่ ที่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดลำปาง ชามตราไก่จากประเทศจีนได้เข้ามาทุ่มตลาดในไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

สถานการณ์ชามตราไก่ 

นายปรีชา ศรีมาลา นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่วิกฤตหนักในอุตสาหกรรมเซรามิกของไทย โดยเฉพาะ ชามตราไก่ ที่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดลำปาง ชามตราไก่จากประเทศจีนได้เข้ามาทุ่มตลาดในไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยขายในราคาถูกเพียงใบละ 5 บาท ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการเซรามิกลำปาง

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการเซรามิกในลำปาง

จากสถานการณ์นี้ ทำให้ผู้ประกอบการเซรามิกขนาดกลางและขนาดเล็กในจังหวัดลำปางที่เคยมีมากกว่า 300 โรงงาน ต้องหยุดกิจการไปกว่า 200 โรงงาน เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจีนที่เข้ามาในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของไทยได้ นายปรีชาได้ระบุว่า แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการในจังหวัด แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และหากรัฐบาลไม่เข้ามาแก้ไขปัญหา อุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง ชามตราไก่ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอาจสูญพันธุ์ได้

การชี้แจงจากประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมลำปาง

นายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อชี้แจง 7 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชามตราไก่ลำปางและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

  1. ลายไก่ของชามตราไก่เดิมมาจากประเทศจีนและถูกนำมาผลิตที่ลำปางโดยชาวจีนที่มาตั้งรกราก
  2. ชามไก่จีนใช้รูปลอกเซรามิกในการผลิตแทนการเขียนลายด้วยมือเหมือนในลำปาง
  3. ชามไก่จีนใบละ 5 บาทเป็นสินค้าที่มีตำหนิและเน้นขายถูกเพื่อดึงดูดลูกค้า
  4. เซรามิกลำปางประสบปัญหายิ่งขายยิ่งถูกและคุณภาพยิ่งต่ำ เนื่องจากแข่งขันกันภายในประเทศ
  5. สินค้าจีนอาจมีปัญหาเรื่องสารพิษในบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
  6. ตั้งแต่มกราคม – พฤษภาคม 2567 มีการนำเข้าเซรามิกจากจีนมากกว่า 3,000 ตันในราคาเฉลี่ย 8.96 บาทต่อกิโลกรัม
  7. การนำเข้าเซรามิกจากจีนอาจมีปริมาณมากกว่าที่แสดงในพิธีการศุลกากรถึง 2-3 เท่า

ทั้งนี้ นายอธิภูมิ ยังระบุว่าปัญหานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความท้าทายที่เซรามิกลำปางต้องเผชิญ และเตรียมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดอื่น ๆ ในอนาคต

ความต้องการการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายปรีชา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพราะหากยังปล่อยให้จีนเข้ามาตีตลาดโดยไม่มีการควบคุม จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซรามิกของไทย ชามตราไก่ เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง

แมนยู เสริมแกร่ง! ทุ่มพันล้านบาท ซื้อ เดอลิกต์ และ มาซราวี

แมนยู ทีมฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษ ได้เสริมทัพด้วยการซื้อนักเตะใหม่สองคนจากทีมบาเยิร์น มิวนิคในเยอรมนี คือ เดอลิกต์ กองหลังชาวเนเธอร์แลนด์วัย 25 ปี และ มาซราวี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษ ได้เสริมทัพด้วยการซื้อนักเตะใหม่สองคนจากทีมบาเยิร์น มิวนิคในเยอรมนี คือ เดอลิกต์ กองหลังชาวเนเธอร์แลนด์วัย 25 ปี และ มาซราวี แบ็กขวาชาวโมร็อกโก ด้วยค่าตัวรวมประมาณ 60 ล้านยูโร (ราว 2,400 ล้านบาท)

เดอลิกต์ เคยร่วมงานกับผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของแมนฯ ยูไนเต็ดมาก่อน ทั้งสองคนได้รับเสื้อหมายเลขใหม่ โดยเดอลิกต์ได้เบอร์ 4 และมาซราวีได้เบอร์ 3

พวกเขามีโอกาสลงเล่นเกมแรกของฤดูกาลใหม่ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ การเซ็นสัญญานักเตะใหม่ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของทีมในการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อปรับปรุงผลงานในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

อ่านเพิ่มเติม แมนยู คว้าตัว เดอลิกต์ และ มาซราวี จากบาเยิร์น มิวนิค

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกก.บห. 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

การตัดสินยุบพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง สั่งยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การตัดสินครั้งนี้เป็นผลมาจากคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีมติเอกฉันท์เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

ผลกระทบต่อกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งรวมถึงกรรมการบริหารพรรคทั้งสองยุค โดยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง

ปฏิกิริยาจากสหรัฐอเมริกา

ล่าสุด สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ เกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกล ระบุว่า

“สหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันนี้ ซึ่งมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน”

แถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า

  • คำตัดสินนี้ลิดรอนสิทธิ์ของชาวไทยกว่า 14 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566
  • คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเสี่ยงต่อการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตยของไทย และขัดกับความปรารถนาของชาวไทยต่ออนาคตที่มั่นคงและเป็นประชาธิปไตย
  • การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยทั่วถึงเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาบันระดับชาติที่เข้มแข็ง
  • สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่ในฐานะพันธมิตรและมิตรใกล้ชิดที่มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนาน เรียกร้องให้ไทยดำเนินการเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง และเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รวมถึงเสรีภาพในการสมาคมและการแสดงออก

การยุบพรรคก้าวไกล และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมืองไทย และได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในประเทศและจากนานาชาติ

ย้อนโพสต์ “ธนาธร” เล่าถึงวันแรกที่ “พิธา” ที่เข้ามาพรรค

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

การเข้ามาของพิธา และการเติบโตในพรรคการเมือง

เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กกต. วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสร้อนแรงในวงการการเมืองและในโลกออนไลน์

ผู้สนับสนุนนายพิธาและพรรคก้าวไกลแสดงความไม่พอใจและมองว่าเป็นการสกัดขาทางการเมือง แฮชแท็ก #โหวตนายก #โหวตนายกรอบ2 #ประชุมสภา ติดเทรนด์ตลอดทั้งวัน มีประชาชนจำนวนมากโพสต์ให้กำลังใจนายพิธาและพรรคก้าวไกล

การสนับสนุนจากธนาธร

หนึ่งในผู้สนับสนุนคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหัวหน้าคณะก้าวหน้า เขาได้ไปให้กำลังใจนายพิธาถึงที่ และถ่ายรูปคู่มาทวีตบอกว่า “ค่ำคืนนี้ มาให้กำลังใจคุณ #พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หนทางยังอีกไกล ขอให้เข้มแข็ง นำพี่น้องประชาชนไทยสู่อนาคตอันสดใสต่อไป”

เรื่องราวของพิธา กับ พรรคอนาคตใหม่

ธนาธร เคยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กถึงวันแรกที่นายพิธาเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งพรรคถูกยุบ กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลที่แข็งแกร่ง โดยมีนายพิธาก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล

“วันแรกที่ทิมเดินเข้ามาที่พรรคอนาคตใหม่ ผมก็รู้แล้วว่าคนคนนี้หลักแหลมและมีอนาคตทางการเมืองยาวไกล และผมก็คาดไว้ไม่ผิด ทิมเป็นหัวหน้าพรรคที่ดีที่สุดเท่าที่ก้าวไกลจะมีได้ เขาไม่เพียงเป็นหัวหน้าพรรคที่กล้าพูดประเด็นแหลมคม สั่นสะเทือนในสภา แต่ยังเป็นหัวหน้าที่พร้อมสนับสนุน ส.ส. ในพรรคอยู่เสมอ

ผมเชื่อว่าทิมจะเป็น ส.ส. ที่ดี และวันนี้ ผมเชื่อว่าเขาเติบโตขึ้นทั้งในด้านประสบการณ์ ความรู้ ความลึกซึ้งทางการเมือง วันนี้ผมไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นแค่ ‘ส.ส. ที่ดี’ แต่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีของคนไทยได้”

เชอรีน ณัฐจารี จ่อแจ้งความอดีตสามี ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่คุกคามตามรังควานไม่เลิก

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ดาราสาว เชอรีน-ณัฐจารี หรวเชกุล น้องสาวของศิลปินชื่อดัง นิชคุณ หรเวชกุล หรือ นิชคุณ 2PM พร้อมทนายแก้ว มนต์ชัย จะเดินทางไปยัง สน. ทองหล่อ

ประเด็นร้อน ดาราสาวเชอรีน ณัฐจารี แจ้งความอดีตสามี

กลายเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจขึ้นมาทันที เมื่อล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ดาราสาว เชอรีน-ณัฐจารี หรวเชกุล น้องสาวของศิลปินชื่อดัง นิชคุณ หรเวชกุล หรือ นิชคุณ 2PM พร้อมทนายแก้ว มนต์ชัย จะเดินทางไปยัง สน. ทองหล่อ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามี ที่ทำร้ายร่างกายจนต้องแยกทางกัน และทุกวันนี้ยังข่มขู่คุกคาม ให้คนตามรังควานไม่เลิก

ประวัติการแต่งงานของเชอรีน

ย้อนกลับไป เชอรีนเคยออกมาประกาศข่าวดีแต่งงานกับแฟนหนุ่มนอกวงการแบบเงียบๆ ในช่วงปี 2564 และประกาศข่าวดีท้องลูกคนแรก และใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันพักใหญ่ ก่อนที่จะออกมาบอกข่าวช็อกอีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ว่าเธอและสามีได้เลิกรากันตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การกระทำของอดีตสามีที่นำไปสู่การแจ้งความ

เชอรีนเปิดเผยว่าตนถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง โดยครั้งแรกหลังจากคลอดลูกคนแรก ฝ่ายชายมักดื่มสุราและมีอารมณ์ร้อน ทุกครั้งที่เมาก็จะเข้ามาทำร้ายร่างกายตน ทั้งตบ ทุบตี และฉุดกระชาก ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายหนักที่สุด ทำให้เกิดบาดแผลและรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย หลังจากอดีตสามีสร่างเมา ก็ได้เข้ามาขอโทษและตนให้อภัยทุกครั้งเพราะต้องการให้ครอบครัวสมบูรณ์ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจึงได้เลิกลากันไป

การคุกคามหลังจากเลิกรากัน

หลังจากเลิกลากันไป อดีตสามียังคอยตามข่มขู่และรังควานอยู่ตลอด รู้ทุกความเคลื่อนไหวของเชอรีน จนทำให้เธอรู้สึกหวาดระแวงและกังวลว่าจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทนายแก้วเปิดเผยว่า การแจ้งความในครั้งนี้มีหลักฐานทั้งรูปภาพของเชอรีนที่ถูกทำร้ายร่างกาย และแชทไลน์ข่มขู่ ซึ่งเบื้องต้นต้องการให้พนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา รวมถึงความผิดฐาน พ.ร.บ. ความรุนแรงในครอบครัว

การกระทำของอดีตสามีทำให้เชอรีนตัดสินใจเดินหน้าแจ้งความเพื่อคุ้มครองตนเองและลูก และทำให้เห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกระทำให้ได้รับความยุติธรรม.

ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ ครั้งแรกของปี มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช้ามืด 25 ก.ค.นี้

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผยเช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศไทย หากฟ้าใสและไร้เมฆฝน

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ประกาศว่า เช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศไทย หากฟ้าใสและไร้เมฆฝน

รายละเอียดปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นระหว่างเวลา 03:09 – 04:27 น. (ตามเวลากรุงเทพมหานคร) โดยดาวเสาร์จะค่อย ๆ ลับหายไปหลังดวงจันทร์และกลับมาปรากฏอีกครั้ง ช่วงเวลานี้สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือผ่านกล้องโทรทรรศน์ หากมองด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นรายละเอียดของวงแหวนดาวเสาร์ที่ชัดเจนมากขึ้น

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. เปิดเผยว่า การเกิดปรากฏการณ์นี้ วัตถุทั้งสองจะปรากฏอยู่บริเวณกลางท้องฟ้า โดยดาวเสาร์จะอยู่ใกล้กับส่วนสว่างของดวงจันทร์

วิธีการสังเกตปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

สามารถสังเกตปรากฏการณ์นี้ได้ทุกจังหวัดทั่วไทย ตั้งแต่เวลา 02:30 น. เป็นต้นไป โดยสดร. จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ความสำคัญของปรากฏการณ์ ดวงจันทร์บังดาวเสาร์

นายศุภฤกษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การบังกันของวัตถุท้องฟ้า (Occultations) มีความสำคัญอย่างมากต่อวงการวิจัยดาราศาสตร์ เนื่องจากสามารถใช้ในการคำนวณหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุ คำนวณหาระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ตรวจหาและศึกษาโครงสร้างของชั้นบรรยากาศ รวมถึงการใช้ตรวจหาวงแหวนของดาวเคราะห์ชั้นนอก

ปรากฏการณ์ครั้งถัดไป

ปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์บังดาวเสาร์” ในปีนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 02:19 – 03:00 น. ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าในพื้นที่ภาคเหนือ บางส่วนของภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลปรากฏการณ์เพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ลงทะเบียนเงินดิจิตอล เริ่ม 1 สิงหาคม 2567

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับ โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

แถลงการณ์จากกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับ โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้

การลงทะเบียนเงินดิจิตอล

  • เริ่มลงทะเบียน: 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
  • วิธีการลงทะเบียน: ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store สำหรับ iOS และ Google Play สำหรับ Android
  • คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์:
    • สัญชาติไทย
    • มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567
    • รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี 2566
    • เงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
    • ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกหรือถูกระงับสิทธิในมาตรการอื่น ๆ ของรัฐ

งบประมาณโครงการเงินดิจิตอล

  • งบประมาณปี 2567: 122,000 ล้านบาทจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 43,000 ล้านบาท
  • งบประมาณปี 2568: 152,700 ล้านบาทจากกรอบงบประมาณรายจ่าย และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 132,300 ล้านบาท
  • รวมทั้งหมด: 4.5 แสนล้านบาท สำหรับประชาชน 45 ล้านคน

การลงทะเบียนร้านค้า

  • เริ่มลงทะเบียน: 1 ตุลาคม 2567
  • รายละเอียดเพิ่มเติม: จะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติและวิธีการสมัคร

การแจกเงิน

  • เริ่มใช้จ่าย: ไตรมาส 4 ของปี 2567
  • เงื่อนไขการใช้จ่าย: ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อในเขตอำเภอที่ตนเองมีทะเบียนบ้านอยู่ โดยต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face)

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เว็บไซต์โครงการ: www.digitalwallet.go.th
  • สอบถามข้อมูล: ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Call Center) สายด่วน โทร. 1111

นายจุลพันธ์ได้ย้ำว่า ประชาชนที่สนใจควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และทำการยืนยันตัวตนล่วงหน้า เพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย.

ตามคาด นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาคนใหม่

ผลการลงคะแนนเสียงได้ถูกประกาศว่า นายมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียง 159 เสียง

การประชุมวุฒิสภา วันนี้ได้มีการเลือก ประธานวุฒิสภาคนใหม่ โดยมี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว หลังจากที่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภา 3 คน ได้แก่ นายมงคล สุระสัจจะ, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมเป็นเวลา 5 นาทีแต่ละคน

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ประชุมได้ดำเนินการขานชื่อเป็นรายบุคคล ตามลำดับเลขที่สมาชิกทั้ง 200 ลำดับ เพื่อเข้าคูหาลงคะแนนแบบลับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และในเวลา 12.31 น.

ประธานวุฒิสภาคนใหม่

ผลการลงคะแนนเสียงได้ถูกประกาศว่า นายมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียง 159 เสียง ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์ ได้รับ 13 เสียง และ น.ส.นันทนา ได้รับ 19 เสียง มีบัตรเสียจำนวน 5 ใบ และงดออกเสียง 4 เสียง

หลังจากการประกาศผล ประธานได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 20 นาที เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และจะดำเนินขั้นตอนการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และคนที่ 2 ต่อไป โดยสมาชิกจะเสนอชื่อบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว และแสดงวิสัยทัศน์ก่อนที่จะมีการลงมติเลือกต่อไป

ช่อง YouTube Spin9Arm ถูกปลิวเพราะระบบคิดว่าเป็นตัวปลอม

นายอาร์ม ยูทูบเบอร์และวิศวกรชาวไทย ประสบปัญหาเมื่อช่อง YouTube “Spin9Arm” ถูกปิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เนื่องจากระบบเข้าใจผิดคิดว่าเป็นช่องปลอม

นายอาร์ม ยูทูบเบอร์และวิศวกรชาวไทย ประสบปัญหาเมื่อช่อง YouTube “Spin9Arm” ถูกปิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เนื่องจากระบบเข้าใจผิดคิดว่าเป็นช่องปลอม สาเหตุอาจเกิดจากการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ YouTube ใช้ในการระงับช่อง นายอาร์มได้ยื่นอุทธรณ์และคาดว่าจะแก้ไขปัญหาได้เร็วๆ นี้

เหตุการณ์นี้สร้างทั้งความตกใจและความขบขันให้กับผู้ติดตาม มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลาย รวมถึงการวิจารณ์ระบบ AI ของ YouTube

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดช่อง Spin9Arm ได้กลับมาออนไลน์แล้ว โดยนายอาร์มได้แสดงความคิดเห็นแบบติดตลกเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของระบบตรวจสอบอัตโนมัติและความสำคัญของการมีระบบอุทธรณ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์

สรุปข่าว Spin9Arm

  • ช่อง YouTube “Spin9Arm” ของนายอาร์มถูกปิดเมื่อ 15 กรกฎาคม
  • สาเหตุ: ระบบ YouTube เข้าใจผิดคิดว่าเป็นช่องปลอม
  • นายอาร์มยื่นอุทธรณ์และคาดว่าจะแก้ไขปัญหาได้เร็วๆ นี้
  • เหตุการณ์นี้สร้างทั้งความตกใจและขบขันให้กับผู้ติดตาม
  • มีการวิจารณ์ระบบ AI ของ YouTube ในความคิดเห็น
  • ล่าสุดช่องได้กลับมาออนไลน์แล้ว
  • นายอาร์มแสดงความคิดเห็นแบบติดตลกเกี่ยวกับเหตุการณ์
  • สะท้อนปัญหาของระบบตรวจสอบอัตโนมัติและความสำคัญของระบบอุทธรณ์