“สึ่งตึง” แปลว่าอะไร? แล้ว “คนสึ่งตึง” เป็นคำด่าหรือไม่

ถ้าเจอคำว่า “สึ่งตึง” ในภาษาเหนือ แล้วกำลังงงว่าหมายถึงอะไร วันนี้เรามีคำตอบแบบเข้าใจง่าย ๆ มาเล่าให้ฟังเหมือนเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟัง

ถ้าเจอคำว่า สึ่งตึง ในภาษาเหนือ แล้วกำลังงงว่าหมายถึงอะไร วันนี้เรามีคำตอบแบบเข้าใจง่าย ๆ มาเล่าให้ฟังเหมือนเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟัง

ความหมายของ “สึ่ง” และ “สึ่งตึง”

  • “สึ่ง” = โง่, เปิ่น, เซ่อซ่า
  • “สึ่งตึง” = โง่เง่าอย่างเต็มขั้น, ซื่อบื้อไปเลย, ทำตัวงุ่มง่ามไร้ไหวพริบ

ดังนั้นเวลาได้ยินว่า “คนสึ่งตึง” หมายถึงคนที่ดูเปิ่น ๆ บื้อ ๆ แต่ ไม่ถึงขั้นด่าหยาบแรง ว่าเป็นคนปัญญาอ่อนนะ ออกแนวพูดเหน็บแนมขำ ๆ หรือบ่นแบบเอ็นดูมากกว่าจะเจตนาว่าร้ายรุนแรง

แล้ว “คนสึ่งตึง” เป็นคำด่ามั้ย?

ถือเป็นคำด่าเบา ๆ หรือคำเหน็บแนมในภาษาพูด มากกว่าด่ารุนแรง
พูดง่าย ๆ คือเหมือนเรียกคนที่ทำตัวเปิ่น ๆ เซ่อ ๆ ขาดสติ หรือไหวพริบ ไม่ทันเกมชีวิต เช่น

  • เดินสะดุดล้มในที่ราบเรียบ
  • ถูกหลอกง่าย ๆ แบบไม่รู้ตัว
  • ใช้แรงทำอะไรมากกว่าสติจนเกิดเรื่อง

ไม่ได้หมายถึงคนไม่ฉลาดโดยกำเนิด แต่เปรียบเปรยพฤติกรรมหรือการกระทำในจังหวะนั้น ๆ

ตัวอย่างเรื่องเล่า-บทเพลงเกี่ยวกับ “สึ่งตึง”

  • อดีตมีคนภาคกลางไปทำงานที่ภาคเหนือ พอถามว่าคำว่า “สึ่งตึง” หมายถึงอะไร ชาวเมืองก็หลอกว่าหมายถึง “งาม” หรือ “สวย” ทำให้เธอดีใจใหญ่ ก่อนจะรู้ความจริงทีหลัง ว่าแปลว่า “โง่เง่า” นั่นเอง
  • มีเพลงพื้นเมืองล้านนา “คนสึ่งตึง” ที่ร้องล้อเลียนตัวเอง ว่าเกิดมาเป็นคนสึ่งตึง มีสองสลึงป๋าย (คือไม่เต็มบาท) กินอะไรคนอื่นว่ามีวิตามินก็กินหมด ไม่ได้คิดวิเคราะห์เลย

คำแซวเพิ่มเติม “สึ่งตึงรึงราด”

“สึ่งตึงรึงราด” (อ่านว่า สึ่ง-ตึง-ฮึง-ฮาด) ใช้ประชดหนักขึ้น หมายถึงคนที่ไม่เพียงแต่โง่บื้อ แต่ยังทำอะไรโครมคราม รุนแรง วุ่นวายโดยไม่ใช้สมอง เช่น ทำของพังตอนย้ายบ้าน, ใช้แรงเกินเหตุ

สรุปสั้น ๆ

คำศัพท์ความหมายความแรง
สึ่งโง่ เซ่อซ่าเบา
สึ่งตึงโง่เง่า ซื่อบื้อปานกลาง
สึ่งตึงรึงราดโง่เง่า + ทำตัววุ่นวาย ใช้แรงเกินเหตุประชดแรง

สรุป: “คนสึ่งตึง” เป็นคำแซวหรือเหน็บเบา ๆ มากกว่าจะเป็นคำด่าแรง ๆ แต่ถ้าโดนใช้ในน้ำเสียงประชดประชันก็อาจรู้สึกเจ็บจี๊ดได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ “น้ำเสียง” และ “สถานการณ์” ที่ใช้!

แฟนคลับเศร้า “ปุยฝ้าย” ดาว TikTok เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุ

“ปุยฝ้าย” เจ้าของช่อง TikTok @sawasmr อินฟลูเอนเซอร์สายกินชื่อดัง เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำ บริเวณถนนศรีนครินทร์ ขาออก

เป็นข่าวเศร้าที่สร้างความสะเทือนใจให้กับโลกโซเชียล เมื่อ ปุยฝ้ายเจ้าของช่อง TikTok @sawasmr อินฟลูเอนเซอร์สายกินชื่อดัง เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำ บริเวณถนนศรีนครินทร์ ขาออก ก่อนถึงอุโมงค์ศรีอุดม เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 18.45 น.


รายละเอียดอุบัติเหตุ ปุยฝ้าย เสียชีวิตในวัย 43 ปี

ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวศริษา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปุยฝ้าย” วัย 43 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ทะเบียน กทม. โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถของปุยฝ้ายอาจเหยียบถังพลาสติกที่ตกอยู่บนถนน ทำให้เสียหลักล้มลงอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ปั๊มหัวใจ (CPR) ในจุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา

กล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับรถคันอื่นหรือไม่


 โลกออนไลน์ร่วมไว้อาลัย – จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

ข่าวการเสียชีวิตของ “ปุยฝ้าย” สร้างความตกใจให้กับแฟนคลับทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ติดตามบน TikTok กว่า 1.2 ล้านคน ที่คุ้นเคยกับเสียงกินอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ และรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ถ่ายทอดความสุขผ่านการกินอาหารแต่ละคลิป

เธอไม่ได้เป็นเพียง “ครีเอเตอร์สายกิน” แต่ยังเป็น แหล่งพลังบวกของผู้ชม ด้วยบุคลิกที่เป็นกันเอง และพลังชีวิตอันสดใสที่ส่งผ่านหน้าจออย่างเป็นธรรมชาติ


ปุยฝ้าย จากไปอย่างไม่มีสัญญาณเตือน – แต่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

การจากไปของ “ปุยฝ้าย” เตือนให้ทุกคนระลึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และทิ้งไว้เพียงความทรงจำดี ๆ ที่แฟนคลับหลายคนจะไม่มีวันลืม

หนุ่มวัย 26 แชร์ประสบการณ์ป่วยไตวาย เตือนสติคนรุ่นใหม่อย่าละเลย 2 พฤติกรรมเสี่ยง

Nguyễn Trần Hoàng หนุ่มชาวเวียดนามวัยเพียง 26 ปี ที่กลายเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย สร้างแรงกระเพื่อมในโซเชียลอย่างมาก หลังเขาออกมาแชร์ชีวิตจริงผ่าน TikTok ในนาม “Hoàng Nguyễn Chạy Thận” เพื่อเตือนให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ ก่อนจะสายเกินแก้

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ Nguyễn Trần Hoàng หนุ่มชาวเวียดนามวัยเพียง 26 ปี ที่กลายเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย สร้างแรงกระเพื่อมในโซเชียลอย่างมาก หลังเขาออกมาแชร์ชีวิตจริงผ่าน TikTok ในนาม “Hoàng Nguyễn Chạy Thận” เพื่อเตือนให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ ก่อนจะสายเกินแก้


จากวัยรุ่นไฟแรง สู่ผู้ป่วยไตระยะสุดท้าย

Nguyễn เริ่มทำงานออนไลน์ตั้งแต่อายุ 16 ปี เขาทำงานหนักเพื่อเป็นเสาหลักให้ครอบครัวที่มีแม่ ภรรยา และลูกสาวตัวน้อย ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญในชีวิตของเขา

แม้จะประสบความสำเร็จในงาน แต่เขายอมรับว่า “ละเลยสุขภาพตัวเองมาตลอด” โดยเฉพาะ 2 พฤติกรรมเสี่ยงที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต คือ

  1. นอนดึกเป็นประจำ – ทำงานจนเกินเที่ยงคืนทุกวัน ร่างกายไม่ได้พักผ่อน
  2. กินอาหารขยะ-น้ำอัดลม – ดื่มหวานจัดและรับประทานของทอดของมันบ่อยครั้ง

อาการเตือนมาแบบเงียบๆ ก่อนร่างกายพัง

กลางปี 2024 เขาเริ่มมีอาการไม่ปกติ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด แต่คิดว่าเป็นผลจากงานหนัก จนเดือนสิงหาคม 2024 อาการรุนแรงขึ้นจึงไปพบแพทย์ และถูกวินิจฉัยว่าเป็น โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย

คำวินิจฉัยนั้นเปลี่ยนชีวิตเขาในพริบตา เพราะต้องฟอกไตตลอดชีวิตหรือรอปลูกถ่ายไตเท่านั้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง


จากความสิ้นหวัง สู่แรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน

ช่วงแรกหลังทราบข่าว เขาเครียดจนเกือบคิดสั้น แต่ด้วยกำลังใจจากภรรยาและลูกสาว เขาตัดสินใจสู้ต่อ และเริ่มเล่าเรื่องของตัวเองผ่าน TikTok เพื่อเตือนสติและขอความช่วยเหลือ จนมีคนเข้ามาให้การสนับสนุนและระดมทุนจนสามารถเดินเรื่องการปลูกถ่ายไตได้

ปัจจุบันเขาต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และยังคงทำคอนเทนต์ออนไลน์พร้อมแบ่งปันข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต


ข้อคิดที่อยากฝากไว้

“อย่ารอให้ร่างกายพัง ถึงจะหันมาใส่ใจสุขภาพ” – Nguyễn Trần Hoàng

เขาย้ำว่า การนอนให้พอ ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เลี่ยงน้ำอัดลม และอาหารขยะ คือสิ่งเล็กๆ ที่สามารถ ปกป้องไตของเราได้จริง

เรื่องราวของ Nguyễn ไม่เพียงแต่เป็นบทเรียนชีวิตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความจริงของคนรุ่นใหม่ที่หลงทางในความเร่งรีบและความเครียด จนลืมดูแล “ต้นทุนที่สำคัญที่สุด” ของชีวิต… นั่นคือ สุขภาพ

อ่านเพิ่มเติม https://www.sanook.com/news/9778266/

สตง. เสียใจ เหตุตึกถล่ม จากแผ่นดินไหว ยืนยันก่อสร้างตามกฎหมาย โปร่งใส

อาคารที่ทำการแห่งใหม่ของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหว ส่งผลให้มี ผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มหลังเกิดแผ่นดินไหว ส่งผลให้มี ผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก ล่าสุด สตง. ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมเร่งตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดดี–ซีอาร์อีซี เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 2,136 ล้านบาท

สตง. ย้ำว่า การออกแบบและก่อสร้างยึดตามกฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และมาตรฐานทางวิศวกรรม รวมถึง คำนึงถึงความมั่นคง แข็งแรง และรองรับแรงแผ่นดินไหว ตามหลักการวิศวกรรมโครงสร้างที่ทันสมัย โดยปฏิเสธชัดเจนว่าข่าวลือที่ว่า มีการปรับลดขนาดเสาหรือแก้ไขแบบโครงสร้างเพื่อประหยัดงบ นั้น “ไม่เป็นความจริง”


โปร่งใส ตรวจสอบได้ – เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ภายหลังเกิดเหตุ สตง. ได้ตั้งศูนย์ประสานงานในพื้นที่เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อม ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัย และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกัน สตง. ยืนยันว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและก่อสร้างดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และ ได้ลงนามข้อตกลงคุณธรรมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อป้องกันการทุจริตทุกขั้นตอน


เดินหน้าหาสาเหตุ – แถลงความคืบหน้าโดยเร็ว

สตง. ระบุว่าขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์พังถล่มอย่างละเอียด โดยจะ แถลงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบโดยเร็วที่สุด และเน้นย้ำว่าการก่อสร้างครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและระบบราชการไทย โดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

โศกนาฏกรรมนี้กลายเป็นบททดสอบความเชื่อมั่นต่อระบบการก่อสร้างของภาครัฐ สตง. ขอโอกาสพิสูจน์ความจริง และยืนยันพร้อมรับผิดชอบทุกด้านเพื่อคืนความมั่นใจให้สังคม

ไฟใต้ลุก สุไหงโกลก นราธิวาส คนร้าย 20 ราย บุกโจมตี

เกิดเหตุการณ์ กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 ราย สวมชุดดำคลุมหน้า ใช้อาวุธครบมือบุกโจมตีป้อม อส. หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมก่อเหตุระเบิดหลายจุดทั่วเมือง

วันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 19.09 น. เกิดเหตุการณ์ กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 ราย สวมชุดดำคลุมหน้า ใช้อาวุธครบมือบุกโจมตีป้อม อส. หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมก่อเหตุระเบิดหลายจุดทั่วเมือง

เปิดฉากยิงถล่ม – คาร์บอมบ์ซ้ำ อส.พลีชีพ 2 นาย บาดเจ็บ 8

กลุ่มคนร้ายใช้รถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน และ รถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะลงมือ ยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ อส. ที่ประจำป้อมยาม และอาคารบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

จากนั้น คนร้ายได้จุดชนวนคาร์บอมบ์ที่จอดไว้ใกล้ป้อมยาม ส่งผลให้ อส.เสียชีวิต 2 นาย ได้แก่

  1. มญ.มูฮำหมัดซาบรี นะสะวัน (ชป.พิเศษมือหนึ่ง)
  2. อส.ทศพล พายพิมพ์ (ชป.พิเศษ)

และ อส.บาดเจ็บ 8 นาย (สาหัส 3 นาย) ได้แก่

  1. อส.ณรงค์ชัย รัดรึงสุนทรี
  2. อส.มัสรัน อารง
  3. อส.อีซูวัน บินมะมิง
  4. อส.มะดารี ตาเยะ
  5. อส.อภิชัย บุตรจีน
  6. อส.ซุลกิฟลี วาจิ
  7. อส.ธวัชชัย ไชยศรี
  8. อส.กำทร วงศ์นคร

ก่อเหตุระเบิดอีก 3 จุด กราดยิงชาวบ้านเจ็บ 4 ราย

หลังจากโจมตีป้อม อส. คนร้ายยัง ลอบวางระเบิดอีก 3 จุดในเมืองสุไหงโก-ลก ได้แก่

  • จุดที่ 2 : ระเบิดถังดับเพลิง ถนนพาดทางรถไฟ หลังโรงเรียนบุณยลาภ (ไม่มีผู้บาดเจ็บ)
  • จุดที่ 3 : ระเบิดถังแก๊ส ถนนหน้าห้าง Big C สุไหงโก-ลก ชุมชนโต๊ะลือเบ (ไม่มีผู้บาดเจ็บ)
  • จุดที่ 4 : ระเบิด เกาะกลางถนนเลียบรางรถไฟ หลังสนามกีฬามหาราช (ไม่มีผู้บาดเจ็บ)

นอกจากนี้ คนร้ายยัง เปิดฉากกราดยิงชาวบ้านบริเวณหน้าวัดท่านแดง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ได้แก่

  1. นายจิรภัทร
  2. นางรัชนีวรรณ
  3. นายสงการนต์
  4. นางยูในด๊ะ

ขณะที่ อำเภอสุไหงปาดี เกิดเหตุระเบิด เสาไฟฟ้า 2 ต้น บริเวณหัวสะพานตลิ่งสูง ใกล้โรงเรียนบ้านตลิ่งสูง ตำบลสุไหงปาดี แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ

แม่ทัพภาค 4 สั่งปิดเมือง 100% – ล่าตัวกลุ่มคนร้าย

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปิดเมืองสุไหงโก-ลกทันที พร้อมตั้งด่าน 100% ทุกจุด และให้ชุดป้องกันชายแดน สังเกตกลุ่มต้องสงสัยที่อาจพยายามหลบหนีข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะนี้ หน่วยความมั่นคงกำลังเร่งไล่ล่าคนร้าย ที่ก่อเหตุโจมตีหลายจุด พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และเร่งตรวจสอบความเสียหายจากเหตุระเบิดและการโจมตีในครั้งนี้

ตำรวจไซเบอร์จับศิลปินดัง โพสต์โฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจสอบพบว่า ศิลปินนักร้องรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานเพลงบน YouTube มียอดวิวกว่า 200 ล้านวิว โพสต์โฆษณาชักชวนให้เล่น การพนันออนไลน์ พร้อมแนบลิงก์เว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจสอบพบว่า ศิลปินนักร้องรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานเพลงบน YouTube มียอดวิวกว่า 200 ล้านวิว และมีผู้ติดตามบน Facebook กว่า 400,000 คน ได้โพสต์โฆษณาชักชวนให้เล่น การพนันออนไลน์ พร้อมแนบลิงก์เว็บพนัน

นักร้องดัง 200 ล้านวิว ถูกตำรวจไซเบอรจับ

จากการสืบสวนพบว่า พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขอศาลออกหมายเรียก นายชยธร ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว รับทราบข้อกล่าวหา ฐาน “ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันในการเล่นซึ่งไม่ได้รับอนุญาต”

รับสารภาพ โพสต์โฆษณาหวังค่าตอบแทน

วันที่ 27 มกราคม 2568 นายชยธรได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ใช้ Facebook ดังกล่าวจริง และได้รับการติดต่อให้โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ อ้างว่ามีรายได้ดี จึงโพสต์แนบลิงก์เว็บพนันใน สตอรี่ Facebook เพื่อหวังค่าตอบแทน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวส่งฟ้องศาลแขวง พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

เตือนภัย! โฆษณาพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย เสี่ยงโทษหนัก

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ฯ เน้นย้ำว่า “การโฆษณาชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วย” พร้อมเตือนประชาชนให้ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสติ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชักชวน ไม่ว่าจะเป็นการเชิญให้โฆษณาหรือเข้าร่วมเล่นพนัน เนื่องจาก “ทั้งผู้โพสต์โฆษณาและผู้เล่นพนันออนไลน์ ไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย”

ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ได้ที่ สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือ เว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยกันป้องกันและลดปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ในสังคม

พยากรณ์อากาศประเทศไทย วันนี้ 13 มกราคม 2568

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประเทศไทยใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีลักษณะอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ พร้อมลมแรง อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดลดลงถึง 16 องศาเซลเซียส


รายละเอียดอุณหภูมิและสภาพอากาศรายภูมิภาค

ภาคเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 7-14 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 24-29 องศาเซลเซียส
  • บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศหนาวถึงหนาวจัด พร้อมลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 6-13 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 23-27 องศาเซลเซียส
  • ยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด: 2-7 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-17 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-29 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นกับลมแรง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 27-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศเย็นตอนบน ฝนฟ้าคะนองบางแห่งตอนล่าง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 17-25 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-30 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 2-4 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 22-24 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 28-32 องศาเซลเซียส
  • คลื่นทะเล: สูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 16-19 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด: 26-31 องศาเซลเซียส

คำแนะนำสำหรับประชาชน

  1. ดูแลสุขภาพจากอากาศเย็นถึงหนาว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
  2. ระวังอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง
  3. ชาวเรือควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ฝุ่นละอองและหมอกควัน

สภาพการระบายอากาศดีขึ้นจากลมแรง ทำให้ฝุ่นละอองในประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง

สภาพอากาศวันนี้

สภาพอากาศวันนี้ 18 ธันวาคม 2567

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ พร้อมอากาศเย็นถึงหนาวในช่วงเช้า ขณะที่บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวจัดและน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส พร้อมคลื่นลมแรงในอ่าวไทย


รายละเอียดพยากรณ์อากาศ

ภาคเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 14–19°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 27–33°C
  • ยอดดอย: หนาวจัด น้ำค้างแข็งบางแห่ง (ต่ำสุด 5–13°C)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศเย็นถึงหนาว พร้อมลมแรง
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 10–18°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 28–31°C
  • ยอดภู: หนาวจัด (ต่ำสุด 7–14°C)

ภาคกลาง

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 18–20°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 30–32°C

ภาคตะวันออก

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 18–23°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 31–33°C
  • ทะเล: คลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งสูง 1–2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 20–25°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 30–33°C
  • ทะเล: คลื่นสูง 1–2 เมตร (บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร)

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 24–26°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 32–34°C
  • ทะเล: คลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • อากาศเย็นในตอนเช้า
  • อุณหภูมิต่ำสุด: 21–23°C
  • อุณหภูมิสูงสุด: 31–33°C

ข้อควรระวัง

  1. ไทยตอนบน: รักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศเย็นและแห้ง รวมถึงระวังอัคคีภัย
  2. ภาคใต้: เฝ้าระวังฝนตกหนักในบางพื้นที่และคลื่นลมแรง โดยเฉพาะชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง
  3. ยอดดอยและยอดภู: เตรียมรับมือกับอากาศหนาวจัดและน้ำค้างแข็ง

นายก แพทองธาร ลงพื้นที่ น้ำท่วมสุราษฎร์ธานี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้รถทรานสฟอร์เมอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทะเบียน 7 กบ 5091 กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้รถทรานสฟอร์เมอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทะเบียน 7 กบ 5091 กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่


บรรยากาศการต้อนรับ นายก แพทองธาร ลงพื้นที่

น.ส.แพทองธาร ได้รับการต้อนรับจาก ส.ส.ในพื้นที่ ได้แก่ น.ส.กานสินี โอภาสรังสรรค์ (พรรครวมไทยสร้างชาติ) และนายพิชัย ชมภูพล (พรรคภูมิใจไทย) พร้อมพูดคุยกับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยและแจกถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด

นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าเงินเยียวยา 9,000 บาท จะถึงมือผู้ประสบภัยอย่างแน่นอน


ถ้อยคำให้กำลังใจ 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า

“วันนี้ขอให้กำลังใจทุกคน ขอบคุณที่อดทนและยิ้มสู้ ปัญหาน้ำท่วมเราจะแก้ที่ระบบชลประทาน เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องย้ายที่พัก รัฐบาลจะช่วยเติมพลังให้คนใต้กลับมาค้าขายและร่ำรวยได้อีกครั้ง”

ในช่วงท้าย น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายว่า

“เดี๋ยวเดินออกไปถ่ายรูปกันได้ ไม่คิดเงินค่ะ”


บรรยากาศอบอุ่น

การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินทักทาย จับมือ ถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง สร้างบรรยากาศอบอุ่นและความประทับใจ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงเย็น

อ่านข่าว ทะเบียนรถนายก

สอบสวนกลางยืนยัน สายปริศนาโทรหาชาล็อต กลางสัมภาษณ์เป็นเจ้าหน้าที่ AOC จริง

กรณี ชาล็อต ออสติน นางงามชื่อดังที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินกว่า 4 ล้านบาท และถูกบังคับให้วิดีโอคอล 24 ชั่วโมง

กรณี ชาล็อต ออสติน นางงามชื่อดังที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินกว่า 4 ล้านบาท และถูกบังคับให้วิดีโอคอล 24 ชั่วโมง ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ชี้แจงกรณีสายโทรศัพท์ปริศนาที่โทรหาชาล็อตระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการ “โหนกระแส”

ยืนยันตัวบุคคลเป็นเจ้าหน้าที่ AOC

ตำรวจสอบสวนกลางระบุว่าสายโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของพนักงานผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ (Outsource) ที่ปฏิบัติงานใน ศูนย์ AOC (ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) ซึ่งทำหน้าที่โทรติดต่อผู้เสียหายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลิงก์บัญชีปลอม (URL) เพื่อทำการปิดกั้นลิงก์และป้องกันการหลอกลวงเพิ่มเติม

ช่องทางการติดต่ออย่างเป็นทางการ

  1. เบอร์โทรศัพท์
    • 025139197
    • 0658270902
  2. บัญชีไลน์ CIBAOC
    • ไอดีไลน์: cibaoc.staff

ตำรวจสอบสวนกลางยังย้ำว่า หากประชาชนสงสัยเกี่ยวกับการติดต่อ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านหมายเลขและบัญชีไลน์ดังกล่าว เพื่อยืนยันความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ

บทบาทของเจ้าหน้าที่ AOC

เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลลิงก์ปลอมและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ เพื่อนำไปสู่การปิดกั้นและป้องกันการกระทำผิดเพิ่มเติมในระบบ โดยมีการมอบหมายภารกิจจากพันตำรวจเอก เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

การชี้แจงนี้ช่วยสร้างความกระจ่างและความมั่นใจให้กับประชาชนในการรับมือกับกรณีฉ้อโกงและการหลอกลวงทางเทคโนโลยี4o