Tag: ผลบอล

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสำคัญ

วันที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่สนามวิลล่า พาร์ค “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทั้งสองทีมต้องการคว้าชัยชนะเพื่อปรับปรุงอันดับในตารางคะแนน

ครึ่งแรก: เกมรุกที่ยังไม่เข้าฝัก

เริ่มเกม แมนยู พบ แอสตัน วิลล่า ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบคม ทำให้โอกาสทำประตูมีน้อยมาก การป้องกันของทั้งสองทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง: ความพยายามที่ไม่สัมฤทธิ์ผล

เข้าสู่ครึ่งหลัง รูปเกมยังคงเหมือนเดิม ทั้งแอสตัน วิลล่า และ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามสร้างโอกาสในการทำประตูมากขึ้น แต่ยังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ ผู้รักษาประตูของทั้งสองทีมทำผลงานได้ดี ป้องกันไม่ให้บอลเข้าสู่ตาข่ายได้สำเร็จ

ผลการแข่งขัน แมนยู ไม่ชนะใครในลีก 3 นัดติด

จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 ทำให้ “ปีศาจแดง” ไม่สามารถคว้าชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน อันดับหล่นลงไปอยู่ที่ 14 ของตารางคะแนนหลังผ่าน 7 นัด มีเพียง 8 คะแนน ขณะที่ แอสตัน วิลล่า อยู่ในอันดับที่ 5 มี 14 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า (4-3-3)

• ผู้รักษาประตู: เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
• กองหลัง: แมตตี้ แคช, เอซรี่ คอนซ่า, เปา ตอร์เรส, ลูกาส์ ดีญ
• กองกลาง: รอสส์ บาร์คลีย์, ยูริ ตีเลอมันส์, เจเดน ฟิโลจีน
• กองหน้า: เลออน เบลี่ย์, มอร์แกน โรเจอร์ส, โอลลี่ วัตกิ้นส์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1)

• ผู้รักษาประตู: อันเดร โอนาน่า
• กองหลัง: นูสแซร์ มาซราวี, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอนนี่ อีแวนส์, ดีโอโก้ ดาโลต์
• กองกลาง: คริสเตียน เอริคเซ่น, ค็อบบี้ เมนู
• กองกลางตัวรุก: อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันเดส (กัปตันทีม), มาร์คัส แรชฟอร์ด
• กองหน้า: ราสมุส ฮอยลุนด์

สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

• แอสตัน วิลล่า: อันดับ 5 แข่ง 7 นัด มี 14 คะแนน
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: อันดับ 14 แข่ง 7 นัด มี 8 คะแนน

บทสรุป แมนยู พบ แอสตัน วิลล่า

ฟอร์มการเล่นที่ยังไม่เข้าฝักของแมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมต้องเผชิญกับความกดดันมากขึ้น โดยเฉพาะต่ออนาคตของผู้จัดการทีม เอริก เทน ฮาก ที่ต้องเร่งปรับปรุงทีมให้กลับมาคืนฟอร์มเก่ง ในขณะที่แอสตัน วิลล่า ยังคงรักษาอันดับในกลุ่มบนของตารางได้อย่างต่อเนื่อง

เชลซีเปิดฤดูกาลด้วยชัยชนะเหนือวูล์ฟแฮมป์ตัน 6-2

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 นัดที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 เชลซีระเบิดฟอร์มบุกไปถล่มวูล์ฟแฮมป์ตันถึงถิ่น โมลินิวซ์ สเตเดียม ด้วยสกอร์ 6-2 โดยมีโนนี มาดูเอเก้ เป็นฮีโร่ของเกม ทำแฮตทริกยิงคนเดียว 3 ประตู

เชลซีออกนำเร็วจากแจ็คสัน ก่อนโดนตีเสมอ

เกมเริ่มมาเพียง 2 นาที เชลซีขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากลูกเตะมุมที่ นิโคลัส แจ็คสัน โขกจ่อๆ เข้าไป แต่หลังจากนั้นในนาทีที่ 27 วูล์ฟแฮมป์ตันตีเสมอได้จาก มาเธอุส คุนญ่า ที่ซัดโล่งๆ ตุงตาข่าย

พาลเมอร์และมาดูเอเก้โชว์ฟอร์มสุดโหด

ก่อนจบครึ่งแรก โคล พาลเมอร์ ทำประตูสุดสวยให้เชลซีนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากการกระดกบอลข้ามหัวนายทวารโชเซ่ ซา แต่ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก วูล์ฟแฮมป์ตันตีเสมอ 2-2 จาก ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน ทำให้จบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เชลซีขึ้นนำ 3-2 จาก โนนี มาดูเอเก้ ที่ซัดบอลแฉลบเข้าประตูไป จากนั้นเชลซีก็เริ่มทิ้งห่างจากการประสานงานของ พาลเมอร์ และ มาดูเอเก้ ที่ช่วยกันทำประตูในนาทีที่ 58 และ 63 ส่งผลให้มาดูเอเก้ทำแฮตทริกได้สำเร็จ

เฟลิกซ์ปิดท้ายช่วยให้เชลซีนำขาด

นาทีที่ 80 ชูเอา เฟลิกซ์ ซึ่งลงสนามเป็นครั้งแรกให้เชลซีในนัดนี้ ซัดประตูสุดท้ายช่วยให้เชลซีนำห่างเป็น 6-2 ก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

เชลซีคว้าชัยนัดแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เชลซีเก็บ 3 คะแนนแรกของฤดูกาล ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ของตารางคะแนน ส่วนวูล์ฟแฮมป์ตันแพ้ 2 นัดรวด ยังไม่มีคะแนน ตกไปอยู่อันดับรองบ๊วย

รายชื่อผู้เล่น เชลซี พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน

• วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-4-2): โชเซ่ ซา – แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, เยร์ซอน มอสเกร่า, โตติ โกเมส, รายาน ไอต์-นูรี่ – ฮวัง ฮี-ชาน, มาริโอ เลอมิน่า, ชูเอา โกเมส, ปาโบล ซาราเบีย – มาเตอุส คุนญ่า, ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น
• เชลซี (4-2-3-1): โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล่ กุสโต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้ – โนนี่ มาดูเอเก้, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, โคล พาลเมอร์ – นิโคลัส แจ็คสัน

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม F คู่ระหว่าง จอร์เจีย พบกับ โปรตุเกส ที่สนาม อารีน่า เอาฟ์ชาลเก้ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลชนะ 2-0 ของจอร์เจีย

สรุปการแข่งขันจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

• นาทีที่ 2
  จอร์เจียขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ แทงบอลให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกล
• นาทีที่ 16
  โปรตุเกสได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งกดเต็มข้อบอลพุ่งจะเสียบใต้คานแต่ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ปัดออกหลังไปได้ หมดครึ่งแรก จอร์เจีย นำ 1-0
• นาทีที่ 55
  จอร์เจียได้จุดโทษจากจังหวะที่ อันโตนิโอ ซิลวา ทำฟาวล์ ลูก้า โลชอชวิลี่ และเป็น จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ สังหารให้ทีมนำห่าง 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือ โปรตุเกสพยายามเดินหน้าบุกแต่ก็ทวงคืนไม่ได้ จบเกม จอร์เจีย กำชัย 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญพลิกจากอันดับสุดท้ายมาเป็นอันดับ 3 กอดคอกันเข้ารอบ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

• จอร์เจีย (5-3-2): จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ – โอตาร์ คาคาบัดเช่, จอร์จี้ กเวเลซิอานี่, กูราม คาเชีย, ลูก้า โลชอชวิลี่, ลาช่า ดวาลี – จอร์จี้ ชัคเวตัดเช่, จอร์จี้ โคโชราชวิลี่, โอตาร์ คาคาบัดเช่ – ควิชา ควารัตสเคเลีย, จอร์จส์ มิเคาตัดเช่
• โปรตุเกส (4-3-3): ดีโอโก้ คอสต้า – อันโตนิโอ ซิลวา, ดานีโล่ เปเรยร่า, อันโตนิโอ ซิลวา, กอนซาโล่ อินาซิโอ – เปโดร เนโต้, ชูเอา ปาลินญ่า, ชูเอา เนเวส – ฟรานซิสโก้ คอนเซยเซา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ชูเอา เฟลิกซ์

การวิเคราะห์บอลจอร์เจีย พบ โปรตุเกส

จอร์เจีย

• จุดแข็ง: การเล่นที่มีความรวดเร็วและการใช้จังหวะโต้กลับที่มีประสิทธิภาพจาก ควิชา ควารัตสเคเลีย และ จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ การทำประตูตั้งแต่เริ่มเกมช่วยเสริมความมั่นใจให้กับทีม
• จุดอ่อน: การเล่นในครึ่งหลังที่เน้นการป้องกันมากเกินไป ทำให้ทีมต้องรับแรงกดดันจากโปรตุเกสอย่างหนัก

โปรตุเกส

• จุดแข็ง: การครองบอลและการสร้างโอกาสจากนักเตะที่มีความสามารถอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ชูเอา เฟลิกซ์ การที่ทีมมีผู้เล่นที่มีทักษะดีและสามารถทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ดี
• จุดอ่อน: การป้องกันที่ยังมีช่องโหว่และการเล่นที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ดีในเกมรับ การที่เสียประตูตั้งแต่เริ่มเกมทำให้ทีมต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน

สรุป จอร์เจียสามารถผ่านเข้ารอบได้ด้วยการชนะโปรตุเกส 2-0 แม้ว่าผลงานของโปรตุเกสจะดูดีในหลาย ๆ ด้าน แต่การเสียประตูในช่วงต้นเกมและการป้องกันที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเป็นจุดที่ทำให้ทีมไม่สามารถกลับมาสู่เกมได้ ตลอดจนการที่จอร์เจียสามารถใช้จังหวะโต้กลับและการทำประตูที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการคว้าชัยชนะในครั้งนี้

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม D คู่ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ พบกับ ออสเตรีย ที่สนาม โอลิมเพียสตาดิโอน เบอร์ลิน เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567

สรุปการแข่งขันเนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรีย

• นาทีที่ 6
  ออสเตรียขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ พราสส์ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษและ ดอนเยลล์ มาเล่น ทิ้งตัวสกัดเข้าประตูตัวเอง
• นาทีที่ 23
  เนเธอร์แลนด์เกือบตีเสมอ ทียานี่ ไรน์เดอร์ส แทงบอลทะลุช่องให้ ดอนเยลล์ มาเล่น หลุดเดี่ยวแต่ยิงหลุดเสาออกไป หมดครึ่งแรก ออสเตรีย นำ 1-0
• นาทีที่ 47
  เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะสวนกลับ ซาฟี ซิมอนส์ ไหลบอลออกซ้ายให้ โกดี้ คักโป ปั่นด้วยขวาเสียบเสาไกล
• นาทีที่ 59
  ออสเตรียนำ 2-1 ฟลอเรียน กริลลิตช์ เปิดบอลให้ โรมาโน่ ชมิด โหม่งเข้าประตู
• นาทีที่ 75
  เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 2-2 จากการที่ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ โหม่งตั้งให้ เมมฟิส เดอปาย ยิงเข้าตาข่าย ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วยืนยันเป็นประตู
• นาทีที่ 81
  ออสเตรียแซงนำ 3-2 คริสโตฟ เบาม์การ์ตเนอร์ จ่ายบอลให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนยิงเข้าประตู

จบเกม ออสเตรียเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 3-2 เก็บสามแต้ม ขยับยึดจ่าฝูงกลุ่ม ส่วนเนเธอร์แลนด์หล่นไปอยู่อันดับ 3 แต่ได้ผ่านเข้ารอบเช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมเนเธอร์แลนด์ พบ ออสเตรีย

• เนเธอร์แลนด์ (4-3-3): บาร์ท แฟร์บรุคเค่น – ลุตชาเรล เกียร์ทราวด้า, สเตฟาน เดอ ฟราย, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – ทียานี่ ไรน์เดอร์ส, แยร์ดี้ เชาเท่น, โจอี้ เฟียร์แมน – ดอนเยลล์ มาเล่น, เมมฟิส เดอปาย, โกดี้ คักโป
• ออสเตรีย (4-2-3-1): พาทริค เพนท์ซ – สเตฟาน พอช, เควิน ดานโซ่, ฟิลิปป์ ลีนฮาร์ท, โอเล็กซานเดอร์ พราสส์ – นิโกลัส ไซวัลด์, ฟลอเรียน กริลลิตช์ – พาทริค วิมเมอร์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, โรมาโน่ ชมิด – มาร์โค อาร์เนาโตวิช

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม C คู่ระหว่าง  อังกฤษ พบกับ สโลวีเนีย ที่สนาม ไรน์เอเนอร์กี้สตาดิโอน โคโลญจน์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม

สรุปการแข่งขันอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

• นาทีที่ 4
  สโลวีเนียได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เบนยามิน เชชโก้ โหม่งบอลเข้ามือ จอร์แดน พิคฟอร์ด อย่างง่ายดาย
• นาทีที่ 20
  อังกฤษส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจาก บูคาโย ซาก้า แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจาก ฟิล โฟเด้น ล้ำหน้าไปก่อนในจังหวะเปิดบอล
• ครึ่งหลัง
  ทั้งสองทีมพยายามทำประตู แต่สุดท้ายจบเกมเสมอ 0-0

การวิเคราะห์บอลอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

แม้เกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่กลับแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เข้มข้นและการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองทีม

อังกฤษ

• เกมรับ: จอร์แดน พิคฟอร์ด ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม เซฟสำคัญในนาทีแรกทำให้ทีมไม่เสียประตู
• เกมรุก: การประสานงานระหว่าง บูคาโย ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม และ ฟิล โฟเด้น มีความคล่องตัว แต่ยังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์
• คว้าแชมป์กลุ่ม: ผลเสมอในนัดนี้ทำให้อังกฤษสามารถคว้าแชมป์กลุ่ม C ได้สำเร็จ

สโลวีเนีย

• เกมรับ: ยาน โอบลัค นายด่านที่แข็งแกร่ง ช่วยป้องกันประตูหลายครั้งทำให้ทีมไม่เสียประตู
• เกมรุก: เบนยามิน เชชโก้ และ อันดราซ ชโปราร์ มีโอกาสลุ้นทำประตู แต่ขาดความเฉียบขาดในการจบสกอร์
• หล่นไปอยู่อันดับ 3: ผลเสมอในนัดนี้ทำให้สโลวีเนียตกไปอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมอังกฤษ พบ สโลวีเนีย

• อังกฤษ (4-2-3-1): จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี, คีแรน ทริปเปียร์ – คอนเนอร์ กัลลาเกอร์, เดแคลน ไรซ์ – บูคาโย ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น – แฮร์รี่ เคน
• สโลวีเนีย (4-4-2): ยาน โอบลัค – ซาน คานิชนิค, วานย่า เดอร์คูชิช, ยาคา บิโยล, เอริค ยานซ่า – เปตาร์ สโตยาโนวิช, อดัม กเนซด้า เชริน, ติมี่ เอลช์นิค, ยาน มลาคาร์ – อันดราซ ชโปราร์, เบนยามิน เชชโก้

การเสมอในนัดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในเกมรับของทั้งสองทีม การครองบอลและสร้างโอกาสของอังกฤษถือว่าดี แต่ยังขาดความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ส่วนสโลวีเนียสามารถป้องกันประตูได้ดีและมีโอกาสในการโจมตีแต่ยังไม่เพียงพอในการทำประตู สิ่งที่ต้องปรับปรุงสำหรับทั้งสองทีมคือการเพิ่มความแม่นยำในการจบสกอร์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันรอบต่อไป

ผลการแข่งขัน ผลบอล ฟุตบอลยูโร 2024 กลุ่ม E โรมาเนีย พบ ยูเครน

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม E คู่ระหว่าง ผีดิบ โรมาเนีย พบ ยูเครน ที่สนาม ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2567

สรุปการแข่งขันโรมาเนีย พบ ยูเครน

• นาทีที่ 29
  โรมาเนียขึ้นนำ 1-0 จากการที่ อันเดร ลูนิน นายด่านยูเครน ออกบอลพลาด โดน เดนนิส มาน ตัดได้ก่อนส่งให้ นิโคเล สตานชิอู ยิงด้วยขวาบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยม
• นาทีที่ 53
  โรมาเนียนำห่าง 2-0 จาก ราซวาน มาริน ที่เก็บบอลได้หน้าเขตโทษก่อนยิงเต็มข้อ บอลพุ่งตกพื้นเสียบเสาเข้าไป
• นาทีที่ 57
  โรมาเนียได้ประตูที่สามจากลูกเตะมุม เดนนิส มาน รับบอลสั้นก่อนลากเข้าเขตโทษแล้วเปิดให้ เดนิส ดรากุช ยิงจ่อๆ ไม่พลาด ทำให้โรมาเนียทิ้งห่าง 3-0

จบเกม โรมาเนียทำเซอร์ไพรส์ถล่มยูเครน 3-0 เก็บสามแต้มประเดิมสนามได้อย่างเหลือเชื่อ นำฝูงกลุ่ม E ฟุตบอลยูโร 2024

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมโรมาเนีย พบ ยูเครน

• โรมาเนีย (4-2-3-1): ฟลอริน นิตา – อันเดร บูร์ค่า, ราดู ดรากูชิน, อังเดร ราติอู, นิคูชอร์ บันคู – มาริอุส มาริน, ราซวาน มาริน – นิโคเล สตานชิอู, เดนนิส มาน, ฟลอริเนล โกมัน – เดนิส ดรากุช
• ยูเครน (4-3-3): อันเดร ลูนิน – ยูคิม โคโนพลีย่า, อิลลีย่า ซาบาร์นี่, มิโกล่า มัตวิเยนโก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – มิโกล่า ชาปาเรนโก้, ตาราส สเตปาเนนโก้, จอร์จี้ ซูดาคอฟ – วิคตอร์ ซิกันคอฟ, อาร์เต็ม ดอฟบิค, มิไคโล มูดริค

ผลการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร 2024 กลุ่ม E เบลเยียม พบกับ สโลวาเกีย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม E คู่ระหว่าง ปีศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยียม พบ สโลวาเกีย ที่สนาม แฟร้งค์เฟิร์ต อารีน่า เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2567

สรุปการแข่งขันเบลเยียม พบ สโลวาเกีย

• นาทีที่ 7
  สโลวาเกียขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฌเรมี่ โดกู ทำพลาดจ่ายขวางสนามโดน ยูราย คุชก้า ฉกไปยิงติดเซฟ คูน คาสเทลส์ บอลไปเข้าทาง อีวาน ชรานซ์ ซ้ำเข้าประตู
• นาทีที่ 20
  เบลเยียมเกือบตีเสมอได้จากการที่ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายด่านสโลวาเกีย ออกบอลไม่ดีเข้าทาง เลอันโดร ทรอสซาร์ ยิงสวนแต่บอลเหินข้ามคานออกไป หมดครึ่งแรก สโลวาเกียนำ 1-0
• นาทีที่ 56
  เบลเยียมได้ลูกเตะมุม เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดโค้งถึง อมาดู โอนาน่า โหม่งตั้งให้ โรเมลู ลูกากู ชาร์จตุงตาข่าย แต่ VAR ไม่ให้เนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้า
• นาทีที่ 86
  เบลเยียมเกือบได้อีกครั้ง โลอีส โอเปนด้า ลากเข้าเขตโทษก่อนเปิดให้ โรเมลู ลูกากู ซัดเข้าประตู แต่ VAR ไม่ให้เนื่องจาก โอเปนด้า ทำแฮนด์บอลไปก่อน

จบเกม เบลเยียมพลิกล็อกพ่ายให้กับ สโลวาเกีย 0-1 ประเดิมสนามด้วยการไร้แต้มแบบเหลือเชื่อในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 กลุ่ม E

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมเบลเยียม พบกับ สโลวาเกีย

• เบลเยียม (4-2-3-1): คูน คาสเทลส์ – ติโมตี กัสตาญ, เวาต์ ฟาส, อาร์กตูร์ เตอ๊าต, ยานนิค การ์ราสโก้ – โอเรล ม็องกาล่า, อมาดู โอนาน่า – เลอันโดร ทรอสซาร์, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู – โรเมลู ลูกากู
• สโลวาเกีย (4-3-3): มาร์ติน ดูบราฟก้า – ปีเตอร์ เพคาริค, เดนิส วาฟโร, มิลาน ชคริเนียร์, ดาวิด ฮันช์โค่ – ยูราย คุชก้า, สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ออนเดรย์ ดูด้า – อีวาน ชรานซ์, โรเบิร์ต โบเซนิค, ลูคัส ฮาราสลิน