คิมจองอึน เยี่ยมรีสอร์ตหรู ชูศักยภาพการท่องเที่ยวเกาหลีเหนือ

สำนักข่าว KCNA รายงานการเยือนรีสอร์ตชายหาดคัลแมจีในเมืองวอนซาน โดย คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมด้วยลูกสาว จูแอ ซึ่งถูกจับตามองว่าอาจได้รับการเตรียมพร้อมให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำในอนาคต

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2024 สำนักข่าว KCNA รายงานการเยือนรีสอร์ตชายหาดคัลแมจีในเมืองวอนซาน โดย คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมด้วยลูกสาว จูแอ ซึ่งถูกจับตามองว่าอาจได้รับการเตรียมพร้อมให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำในอนาคต

รีสอร์ตคัลแมจี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ เริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ปี 2014 แต่ล่าช้าจากปัญหาการออกแบบ มาตรการคว่ำบาตร และสถานการณ์โควิด-19


ศักยภาพและความยิ่งใหญ่ของรีสอร์ต

รีสอร์ตคัลแมจีตั้งเป้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยชายฝั่งที่ยาวกว่าหาดไวกีกิในฮาวายถึงสองเท่า ประกอบด้วย:

  • ห้องพักกว่า 7,000 ห้อง
  • โรงแรม 17 แห่ง
  • สถานที่จัดการประชุมทางการเมืองและกิจกรรมระหว่างประเทศ

คิมจองอึนระบุว่าโครงการนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยังเป็น “สัญลักษณ์ของศักยภาพเกาหลีเหนือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันระหว่างประเทศ


ความท้าทายและการดึงดูดนักท่องเที่ยว

แม้คิมจองอึนจะมั่นใจในความสำเร็จของโครงการนี้ แต่การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นความท้าทาย:

  • ข้อจำกัดในการเดินทาง นักท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดและไม่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นได้อย่างอิสระ
  • ฤดูกาลที่จำกัด น้ำทะเลเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเพียง 3 เดือนต่อปี
  • การพึ่งพานักท่องเที่ยวรัสเซีย ซึ่งอาจไม่เพียงพอเนื่องจากข้อจำกัดด้านระบอบการปกครอง

ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว เช่น เกร็ก วัคซี จาก Koryo Tours ระบุว่า รีสอร์ตแห่งนี้อาจดึงดูดความสนใจในช่วงแรก แต่ระยะยาวอาจเผชิญความยากลำบากในการรักษาความนิยม


ความมุ่งมั่นของคิมจองอึน

ท่ามกลางอุปสรรค คิมจองอึนยังคงแสดงความเชื่อมั่นในโครงการนี้ โดยระบุว่ารีสอร์ตคัลแมจีคือ “หลักฐานของความแข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ของเรา” พร้อมยืนยันว่าโครงการนี้จะกลายเป็นจุดหมายในฝันสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

คิมจองอึน ใช้คำพูดคล้ายเกาหลีใต้ ถูกสงสัย ติดซีรีส์?

ผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนระหว่างการเยี่ยมเยียนผู้ประสบอุทกภัยที่แม่น้ำยาลู

รายงานจากสำนักข่าว Radio Free Asia เปิดเผยว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนระหว่างการเยี่ยมเยียนผู้ประสบอุทกภัยที่แม่น้ำยาลู เมืองซินอึยจู เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยใช้คำพูดที่ฟังคล้ายคำศัพท์จากเกาหลีใต้ ซึ่งผิดกฎหมายในเกาหลีเหนือและมีบทลงโทษรุนแรง

คำพูดที่สร้างความสับสนและข้อสงสัย

คิมจองอึน ใช้คำว่า “ประชาชนทั้งหลาย” แทนคำว่า “สหาย” ที่เป็นคำศัพท์มาตรฐานในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังเรียกผู้สูงอายุว่า “คนแก่” แทนคำที่สุภาพกว่า เช่น “ผู้อาวุโส” หรือ “ปู่ย่าตายาย” สร้างความงุนงงให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อเขาเรียกโทรทัศน์ว่า “ทีวี” แทนที่จะใช้คำว่า “เทเรบี” ซึ่งเป็นคำที่คนเกาหลีเหนือคุ้นเคย

กฎหมายควบคุมการใช้ภาษาและวัฒนธรรมในเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือ มีกฎหมายเข้มงวดสองฉบับเพื่อควบคุมไม่ให้ประชาชนใช้คำพูดหรือพฤติกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเกาหลีใต้ ได้แก่ “กฎหมายความคิดและวัฒนธรรมที่ส่งผลให้มีพฤติกรรมต่อต้าน” ซึ่งประกาศใช้ปี 2020 และ “กฎหมายคุ้มครองภาษาวัฒนธรรมเปียงยาง” ปี 2023 ซึ่งมุ่งเน้นรักษามาตรฐานภาษาของเกาหลีเหนือ และห้ามการใช้คำทับศัพท์ที่มีอิทธิพลจากตะวันตก

ข่าวต่างประเทศ ที่ผ่านมา การใช้คำพูดหรือพฤติกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเกาหลีใต้ในเกาหลีเหนือถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นถูกลงโทษด้วยการส่งไปทำงานในเหมืองถ่านหินหรือค่ายกักกัน อีกทั้งยังมีการประหารชีวิตผู้ที่ลักลอบฟังเพลง K-Pop ของเกาหลีใต้อีกด้วย

การใช้คำศัพท์แบบเกาหลีใต้ของคิมจองอึนจึงสร้างความประหลาดใจและคำถามว่าเหตุใดผู้นำเกาหลีเหนือถึงได้ใช้คำเหล่านี้ท่ามกลางกฎหมายที่เคร่งครัด