กรมชลฯ ประกาศเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดเช้าวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,053 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 5.65 เมตร ขณะเดียวกัน ได้ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่าในปัจจุบัน
เตือนประชาชนเฝ้าระวัง หลังเพิ่มระบายน้ำเป็น 700 ลบ.ม./วินาที
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น กรมชลประทานได้ประกาศทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 09:00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จากเดิม 600 ลบ.ม./วินาที เป็น 700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณนอกคันกั้นน้ำในพื้นที่คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ชุมชนแม่น้ำน้อย (ต.หัวเวียง อ.เสนา) และบริเวณ ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ปัจจุบันปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,789 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างทั้งหมด โดยขณะนี้ยังสามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีกกว่า 12,082 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ กรมชลประทานยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยให้ติดตามข้อมูลและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา