ทักษิณ – ฮุน เซน เป็นญาติกันจริงไหม?

จากกระแสข่าววันนี้ เรื่องความสัมพันธ์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถูกพูดถึงว่า “เป็นญาติดองกัน”

จากกระแสข่าววันนี้ เรื่องความสัมพันธ์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถูกพูดถึงว่า “เป็นญาติดองกัน” จนหลายคนสงสัยว่าใครแต่งกับใคร และความสัมพันธ์นี้จริงหรือไม่ มาดูคำตอบชัด ๆ

ทักษิณ – ฮุน เซน เป็นพี่น้องร่วมสาบาน ไม่ใช่ญาติดองโดยตรง

ข้อมูลจากหลายสำนักข่าวยืนยันตรงกันว่า ทักษิณ กับ ฮุน เซน มีความสนิทสนมในฐานะ “พี่น้องร่วมสาบาน” (Godbrothers) ตั้งแต่สมัยที่ทักษิณยังเป็นนักธุรกิจ ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง ความสัมพันธ์ส่วนตัวนี้แน่นแฟ้นยาวนาน แม้ช่วงที่ทักษิณลี้ภัยการเมือง ก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากฮุน เซนเสมอ

ต้นตอข่าว “ญาติดอง” มาจากการแต่งงานของลูกหลานผู้ใกล้ชิด

เหตุที่หลายคนเข้าใจว่าทั้งสองเป็นญาติดอง มาจากการแต่งงานในปี 2556 ระหว่าง

  • ชยาภา วงศ์สวัสดิ์: บุตรสาวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (เยาวภาเป็นน้องสาวทักษิณ)
  • นัม ลีนัล: บุตรชายของนักการเมืองกัมพูชาที่ใกล้ชิดฮุน เซน (ไม่ใช่บุตรชายของฮุน เซนโดยตรง)

แม้จะมีการเชื่อมโยงทางเครือญาติผ่านการแต่งงานนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทักษิณกับฮุน เซนเป็นญาติดองกันในเชิงตรงตามสายเลือดหรือกฎหมาย

สรุปชัด ๆ

  • ทักษิณ กับ ฮุน เซน ไม่ได้เป็นญาติดองกันโดยตรง
  • ความสัมพันธ์ของทั้งสองอยู่ในระดับมิตรภาพส่วนตัวและความร่วมมือทางการเมืองมายาวนาน
  • ข่าวลือเรื่องญาติดองเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับงานแต่งงานของลูกหลานผู้ใกล้ชิดเท่านั้น

เจาะพื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา 2568 จุดไหนยังไม่มีข้อสรุป?

ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ยังไม่มีข้อยุติ ไทยและกัมพูชายังคงใช้กระบวนการทางการทูต การเจรจาร่วม และในบางกรณีอาจพิจารณาผ่านศาลระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติในอนาคต

แม้ไทย-กัมพูชาจะมีความร่วมมือในหลายด้าน แต่ยังคงมี พื้นที่พิพาทไทย-กัมพูชา ทั้งทางบกและทางทะเลที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์ และยังไม่สามารถตกลงเรื่องเขตแดนได้อย่างชัดเจนในหลายจุด

พื้นที่พิพาททางบก

  • ช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต)
  • พิกัด: จ.อุบลราชธานี
  • จุดตัดเขตแดนไทย-กัมพูชา-ลาว
  • พื้นที่ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร ยังไม่มีการปักปันเขตแดนแน่ชัด
  • ปราสาทตาเมือนธม / ตาเมือนโต๊ด / ตาควาย
  • พิกัด: อ.ภูสิงห์ จ.สุรินทร์
  • ไทย-กัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์พื้นที่รอบปราสาททั้งสามแห่ง
  • ปราสาทพระวิหาร
  • พิกัด: อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
  • แม้ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบยังมีข้อพิพาท
  • ช่องตาพระยา – บึงตระกวน / เขาตาง๊อก / เขากะบานตะบาน
  • พิกัด: สระแก้วและจันทบุรี
  • ยังไม่มีการตกลงปักปันเขตแดนที่ชัดเจน

พื้นที่พิพาททางทะเล

  • พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA)
  • พิกัด: ใกล้เกาะกูด จ.ตราด และอ่าวไทยตอนกลาง-ตอนล่าง
  • ขนาดรวมประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร
  • ไทย-กัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ)

สรุปจังหวัดไทยที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาท

จังหวัดพื้นที่พิพาทที่สำคัญ
อุบลราชธานีช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต)
สุรินทร์ปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาควาย
ศรีสะเกษพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร
สระแก้วช่องตาพระยา, เขาตาง๊อก
จันทบุรีเขากะบานตะบาน
ตราดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

ข้อพิพาทยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา

ปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ยังไม่มีข้อยุติ ไทยและกัมพูชายังคงใช้กระบวนการทางการทูต การเจรจาร่วม และในบางกรณีอาจพิจารณาผ่านศาลระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติในอนาคต

พยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนถล่ม 45 จังหวัด กทม.มีฝน 40% บ่ายถึงค่ำ

ไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ รวมถึงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง 40%

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ รวมถึงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง 40% โดยจะตกหนักในช่วงบ่ายถึงค่ำ

อิทธิพลของมรสุมส่งผลฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ฝนตกในวันนี้ ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ร่วมกับร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง และบางพื้นที่เกิดฝนตกหนัก

  • ภาคเหนือ: มีฝน 30% ในหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย น่าน
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีฝน 40% ฝนตกหนักบางแห่ง เช่น อุบลราชธานี สกลนคร นครพนม
  • ภาคกลาง: มีฝน 30% บริเวณนครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี
  • ภาคตะวันออก: มีฝน 60% และฝนตกหนักบางแห่ง เช่น จันทบุรี ตราด
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: มีฝน 40% ในหลายจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี สงขลา
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: มีฝน 70% ฝนตกหนักบางแห่ง เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: มีฝน 40% ช่วงบ่ายถึงค่ำ

คลื่นลมสูง ชาวเรือควรระวังเป็นพิเศษ

  • ทะเลอันดามัน: คลื่นสูง 2 เมตร และมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง
  • อ่าวไทย: คลื่นสูง 1 เมตร และมากกว่า 2 เมตรในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เตือนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

แนวโน้มพยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนเพิ่มช่วง 7–11 มิ.ย.

ช่วงวันที่ 7–11 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยคลื่นในทะเลอันดามันอาจสูงถึง 3 เมตรในบางจุด

เส้นจราจร มีกี่ประเภท? รู้ไว้ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง

เส้นจราจร ตามข้อกำหนดของกรมทางหลวง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก และยังมีรายละเอียดย่อยที่ควรรู้เพื่อขับขี่อย่างถูกต้องและปลอดภัย

หลายคนอาจคุ้นเคยกับเส้นบนถนนแต่ไม่แน่ใจว่ามีความหมายอย่างไร จริง ๆ แล้ว เส้นจราจร ตามข้อกำหนดของกรมทางหลวง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก และยังมีรายละเอียดย่อยที่ควรรู้เพื่อขับขี่อย่างถูกต้องและปลอดภัย

1. เส้นแบ่งทิศทางจราจร (Separation Lines)

ใช้แบ่งถนนให้รถสวนทางกันได้ มักเป็น เส้นสีเหลือง แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบย่อย คือ

  • เส้นประสีเหลือง (เส้นปกติ): อนุญาตให้แซงได้เมื่อปลอดภัย
  • เส้นทึบสีเหลือง (ห้ามแซง): ห้ามแซงโดยเด็ดขาด ป้องกันอุบัติเหตุ
  • เส้นทึบคู่กับเส้นประสีเหลือง (ห้ามแซงเฉพาะด้าน): ฝั่งเส้นทึบห้ามแซง ฝั่งเส้นประอนุญาตให้แซงเมื่อปลอดภัย

2. เส้นแบ่งช่องจราจร (Lane Lines)

ใช้แบ่งช่องทางรถที่วิ่งไปในทางเดียวกัน ส่วนใหญ่เป็น เส้นสีขาว มีรายละเอียดดังนี้

  • เส้นประสีขาว (เส้นปกติ): เปลี่ยนเลนได้เมื่อปลอดภัย
  • เส้นทึบสีขาว: ห้ามเปลี่ยนเลน
  • เส้นแสดงความต่อเนื่อง: ใช้ในจุดเร่งหรือชะลอความเร็ว
  • เส้นแนวผ่านทางแยก: ช่วยนำทางช่วงทางแยกซับซ้อน
  • เส้นช่องรถประจำทาง: เฉพาะรถประจำทางเท่านั้น ห้ามรถส่วนบุคคลใช้

3. เส้นขอบทาง (Edge Lines)

เป็น เส้นทึบสีขาว ตีไว้ตลอดขอบถนน ช่วยบอกขอบเขตการใช้ทาง ป้องกันรถล้ำลงไหล่ทาง

4. เส้นจราจรแนวขวาง

นอกจากเส้นตามแนวถนน ยังมีเส้นแนวขวางที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • เส้นหยุด: เส้นทึบสีขาว ใช้กำหนดจุดหยุดรถ
  • เส้นให้ทาง: เส้นประสีขาวขวางแนวช่องจราจร เตือนให้ชะลอและให้ทาง
  • เส้นทางข้าม (ทางม้าลาย): ช่วยให้คนข้ามถนนปลอดภัย
  • เส้นทแยงห้ามหยุดรถ: เส้นทึบสีเหลืองไขว้ ห้ามจอดหรือหยุดรถในกรอบเส้น

ความหมายของสีเส้นจราจร

  • สีขาว: แบ่งช่องทางที่วิ่งไปทางเดียวกัน
  • สีเหลือง: แบ่งช่องทางที่วิ่งสวนกัน

เตือนภัย! ฝนตกหนักทั่วไทย – คลื่นทะเลอันดามันสูงเกิน 2 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนเตรียมรับมือ ฝนตกหนักบางแห่ง ทั่วประเทศไทย พร้อมเฝ้าระวังสภาพทะเลที่มีคลื่นสูงในทะเลอันดามัน

สถานการณ์อากาศวันนี้ (4 มิถุนายน 2568)

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนเตรียมรับมือ ฝนตกหนักบางแห่ง ทั่วประเทศไทย พร้อมเฝ้าระวังสภาพทะเลที่มีคลื่นสูงในทะเลอันดามัน

สาเหตุสภาพอากาศไม่แน่นอน

ระบบอากาศที่ส่งผลกระทบ

  • มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
  • หย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมชายฝั่งเวียดนามตอนบน

เตือนภัยทะเลอันดามัน – ระดับอันตราย

สภาพคลื่นลมที่ต้องระวัง

  • ทะเลอันดามันตอนบน: คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
  • บริเวณฝนฟ้าคะนอง: คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

คำเตือนสำหรับชาวเรือ

  • เรือเล็ก: งดออกจากฝั่งในทะเลอันดามัน
  • เรือขนาดใหญ่: เดินเรือด้วยความระมัดระวัง
  • หลีกเลี่ยง: การเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศแต่ละภาค

ภาคเหนือ – ฝนตกหนักหลายจังหวัด

  • โอกาสฝน: 60% ของพื้นที่
  • ฝนตกหนัก: แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, กำแพงเพชร, สุโขทัย, ตาก, พิษณุโลก
  • อุณหภูมิ: 23-25°C (ต่ำสุด) / 31-35°C (สูงสุด)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – ฝนกระจายตัว

  • โอกาสฝน: 40% ของพื้นที่
  • ฝนตกหนัก: มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, อำนาจเจริญ, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี
  • อุณหภูมิ: 24-26°C (ต่ำสุด) / 33-35°C (สูงสุด)

ภาคกลาง – ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

  • โอกาสฝน: 40% ของพื้นที่
  • พื้นที่เสี่ยง: อุทัยธานี, สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา, กาญจนบุรี, ราชบุรี
  • อุณหภูมิ: 25-27°C (ต่ำสุด) / 34-35°C (สูงสุด)

ภาคตะวันออก – ฝนตกหนักหลายพื้นที่

  • โอกาสฝน: 60% ของพื้นที่
  • ฝนตกหนัก: นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด
  • คลื่นทะเล: ประมาณ 1 เมตร (ฝนฟ้าคะนอง มากกว่า 2 เมตร)

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก – ฝนเบาถึงปานกลาง

  • โอกาสฝน: 40% ของพื้นที่
  • พื้นที่เสี่ยง: เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ยะลา, นราธิวาส
  • คลื่นทะเล: ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก – พื้นที่เสี่ยงสูง

  • โอกาสฝน: 60% ของพื้นที่
  • ฝนตกหนัก: ระนอง, พังงา, ภูเก็ต
  • คลื่นทะเล:
    • จังหวัดพังงาขึ้นไป: ประมาณ 2 เมตร
    • จังหวัดภูเก็ตลงมา: 1-2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล – ฝนตกหนักบางพื้นที่

  • โอกาสฝน: 60% ของพื้นที่
  • ฝนตกหนัก: บางแห่ง
  • อุณหภูมิ: 26-28°C (ต่ำสุด) / 33-35°C (สูงสุด)

คำแนะนำสำหรับประชาชน

มาตรการป้องกันตัว

  1. หลีกเลี่ยง: การเดินทางในพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก
  2. เตรียมพร้อม: อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม
  3. ติดตาม: ข่าวสารสภาพอากาศอย่างสม่ำเสมอ
  4. ระวัง: ต้นไม้โค่นล้ม ป้ายโฆษณาหล่น

สำหรับชาวประมง

  • งดออกเรือในทะเลอันดามัน
  • เฝ้าระวังสภาพคลื่นลมอย่างใกล้ชิด
  • ติดต่อสื่อสารกับฝั่งเป็นระยะ

ทำความรู้จัก “ตะปูสังฆวานร” เครื่องรางสะกดภูติผีของคนเล่นของ

เผยความลี้ลับของ “ตะปูสังฆวานร” เครื่องรางยอดนิยมของคนเล่นของ มีที่มาอย่างไร ทำไมเชื่อกันว่าสามารถสะกดภูติผีปีศาจได้อย่างอยู่หมัด?

ไขปริศนา “ตะปูสังฆวานร” หลังเป็นไวรัลในโลก TikTok

กลายเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์ทันที เมื่อบัญชี TikTok ชื่อ @bbbaaa176 เผยแพร่คลิปขณะดำน้ำในแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชร แล้วพบไหโบราณที่ถูกมัดด้วยสายสิญจน์ ภายในบรรจุตุ๊กตาคุณไสยและถูกตอกด้วย ตะปูสังฆวานร จนหลายคนเกิดความสงสัยว่าตะปูที่ว่านี้คืออะไร และทำไมถึงมีพลังพุทธคุณอันเข้มขลังในการสะกดวิญญาณร้ายได้

ตะปูสังฆวานร คืออะไร มีที่มาอย่างไร?

ตะปูสังฆวานร หรือที่เรียกกันในอดีตว่า “ชินสังฆวานร” เป็นวัสดุที่ทำจากโลหะผสม เช่น ดีบุก สังกะสี ตะกั่ว หรือปรอท มีลักษณะเป็นแท่งโลหะกลมหรือเหลี่ยม ปลายแหลม ถูกใช้เป็นตัวยึดโครงสร้างสำคัญของวัดและพระราชวังมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีตะปูหรือน็อตที่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน จึงนิยมใช้ตะปูชนิดนี้ในการก่อสร้างโบสถ์ วิหาร รวมถึงสิ่งปลูกสร้างสำคัญทางศาสนา

ด้วยเหตุนี้เอง ตะปูสังฆวานรจึงผ่านพิธีกรรมทางศาสนามากมาย ทั้งการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น สวดพระปาติโมกข์ ตลอดจนพิธีกรรมปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้เชื่อว่าตะปูชนิดนี้มี พลังพุทธคุณ สะสมอยู่มาก จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมวัตถุมงคลอย่างแพร่หลาย

ทำไม “ตะปูสังฆวานร” ถึงถูกนำไปสะกดภูติผีปีศาจ?

จากความเชื่อโบราณ ตะปูสังฆวานรที่ผ่านการปลุกเสกและพิธีกรรมทางสงฆ์ ถือว่ามีพลังบริสุทธิ์จากพระธรรมคำสอน สามารถใช้สะกดสิ่งไม่ดี ภูติผีปีศาจ หรือคุณไสยมนต์ดำได้ผลดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิยมตอกลงบนตุ๊กตาหรือหุ่นที่เชื่อว่ามีการลงคุณไสยเพื่อสะกดวิญญาณร้าย

ต่อมา คนโบราณยังนิยมนำตะปูสังฆวานรไปหลอมผสมสร้างเป็นมีดหมอหรือพระเครื่องเนื้อชิน ซึ่งถือเป็นการแปรสภาพของมงคลจากวัดให้เหมาะสมในการนำเข้าบ้าน เพื่อให้ผู้ครอบครองอุ่นใจว่าได้ครอบครองวัตถุมงคลที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์และปลอดภัย

พุทธคุณเด่นๆ ของตะปูสังฆวานร

  • ใช้ในการสะกดภูติผี วิญญาณร้ายได้อย่างดี
  • สามารถนำไปหลอมสร้างวัตถุมงคลประเภทมีดหมอ พระเครื่องเนื้อชิน
  • มีพลังปกป้อง คุ้มครองจากสิ่งไม่ดีและคุณไสยมนต์ดำต่างๆ

ทุกวันนี้ ตะปูสังฆวานร ยังเป็นเครื่องรางที่มีมูลค่าสูงและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หากใครมีไว้ติดบ้านหรือพกติดตัว ก็จะถือว่าได้ของมงคลศักดิ์สิทธิ์ทรงคุณค่าทางใจที่สามารถคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายจากสิ่งที่มองไม่เห็นได้เป็นอย่างดี

กรมชลฯ เตือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำน้อยเฝ้าระวัง

กรมชลประทานแจ้งเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 700 ลบ.ม./วินาที เตือนประชาชน จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้นใกล้ชิด

กรมชลฯ ประกาศเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดเช้าวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,053 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 5.65 เมตร ขณะเดียวกัน ได้ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่าในปัจจุบัน

เตือนประชาชนเฝ้าระวัง หลังเพิ่มระบายน้ำเป็น 700 ลบ.ม./วินาที

อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น กรมชลประทานได้ประกาศทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 09:00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จากเดิม 600 ลบ.ม./วินาที เป็น 700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณนอกคันกั้นน้ำในพื้นที่คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ชุมชนแม่น้ำน้อย (ต.หัวเวียง อ.เสนา) และบริเวณ ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ปัจจุบันปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,789 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างทั้งหมด โดยขณะนี้ยังสามารถรองรับน้ำเพิ่มได้อีกกว่า 12,082 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ กรมชลประทานยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยให้ติดตามข้อมูลและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

พยากรณ์อากาศวันนี้ 26 พ.ค. 2568 ฝนถล่ม 71 จังหวัด!

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 71 จังหวัด 26 พ.ค. 2568 กรุงเทพฯ ฝนร้อยละ 80 เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม คลื่นลมทะเลแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เตือนทั่วไทยยังคงเผชิญ ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนมากถึง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ พร้อมเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่มในหลายจุดทั่วประเทศ


เตือนภัยฝนตกหนัก-ฝนสะสม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 71 จังหวัด

ประชาชนในพื้นที่ ภาคเหนือ, อีสาน, กลาง, ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ควรระวังฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิด น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณ พื้นที่ลาดเชิงเขา-พื้นที่ลุ่มต่ำ

ภัยที่ต้องระวัง

  • น้ำท่วมขังระยะสั้นในเขตเมือง
  • เส้นทางเดินทางเสี่ยงอุบัติเหตุจากน้ำหลาก
  • เกษตรกรควรเร่ง ปรับระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันความเสียหาย

ทะเล-เรือเล็กระวัง! อันดามันคลื่นสูง 2 เมตร

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ทะเลมี คลื่นสูง 1–2 เมตร โดยเฉพาะ ทะเลอันดามันตอนบน คลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร และอาจสูงเกินกว่า 2 เมตรในจุดที่มีฝนฟ้าคะนอง

เรือเล็กงดออกจากฝั่งในทะเลอันดามันตอนบน


รายงานฝนวันนี้: ฝนถล่มหนักเกือบทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักบางแห่ง
  • อุณหภูมิ 24–33°C
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10–20 กม./ชม.

ภาคเหนือ

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • อุณหภูมิ 22–34°C

ภาคอีสาน

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • อุณหภูมิ 22–34°C

ภาคกลาง

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • อุณหภูมิ 24–34°C

ภาคตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • ทะเลคลื่นสูง 1–2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60
  • ฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80
  • ฝนตกหนักถึงหนักมาก
  • คลื่นสูง 1–2 เมตร หรือมากกว่า 2 เมตรในฝนฟ้าคะนอง

ข้อแนะนำ

  • หลีกเลี่ยงเดินทางเส้นทางที่มีน้ำท่วมประจำ
  • งดออกเรือหากมีฝนฟ้าคะนอง
  • เกษตรกรควรเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ย้อนรอยคดีจำนำข้าว ศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากเดิมที่เคยถูกเรียกเก็บถึง 35,717 ล้านบาท

แม้จะผ่านมากว่าสิบปี แต่โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงไม่จบ ล่าสุด (22 พ.ค. 2568) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากเดิมที่เคยถูกเรียกเก็บถึง 35,717 ล้านบาท กรณีปล่อยให้เกิดความเสียหายจากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G)

จุดเริ่มต้นของนโยบาย จากความหวังของชาวนา สู่ปัญหาใหญ่ระดับชาติ

โครงการรับจำนำข้าวเริ่มขึ้นในปี 2554 ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยชาวนาให้มีรายได้มากขึ้น รัฐรับซื้อข้าวเปลือกในราคาสูงถึงตันละ 15,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดมากกว่า 50% เพื่อให้เกษตรกรได้เงินสดไปใช้จ่ายหนี้สินและลงทุนในฤดูถัดไป

แม้จะเริ่มต้นด้วยเสียงชื่นชมจากชาวนา แต่ปัญหาใหญ่เริ่มปรากฏเมื่อต้องนำข้าวออกจากสต๊อกขายกลับสู่ตลาด โดยเฉพาะการระบายแบบ G2G ที่มีข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใส การตั้งราคาที่ไม่สะท้อนต้นทุนจริง และการขายแบบไม่มีสัญญาซื้อขายที่เป็นทางการ

ผลคือ รัฐเสียหายหนักจากการนำข้าวไปขายต่ำกว่าทุน และมีการตีมูลค่าความเสียหายไว้สูงถึง 178,000 ล้านบาท


ศาลชี้ “ยิ่งลักษณ์” บกพร่องในหน้าที่กำกับดูแล ไม่ใช่ทุจริตโดยตรง

แม้ในคดีอาญา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเคยตัดสินจำคุกนางสาวยิ่งลักษณ์ 5 ปี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในคดีแพ่ง ศาลปกครองสูงสุดระบุว่า ยิ่งลักษณ์มีความผิดในฐานะผู้กำกับนโยบาย ไม่ใช่ผู้ลงมือทุจริตโดยตรง

ศาลจึงพิจารณาว่าเธอควรรับผิดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารผิดพลาดในแผนการระบายข้าวแบบ G2G และลดเงินชดใช้ลงมาเหลือ 10,028 ล้านบาท


ทุจริตหรือบริหารพลาด? คำถามที่ยังถกเถียงในสังคม

  • ฝ่ายสนับสนุนยิ่งลักษณ์ ชี้ว่านโยบายมีเจตนาดีเพื่อยกระดับชาวนา แต่ถูกบิดเบือนโดยความขัดแย้งทางการเมือง และการใช้อำนาจตรวจสอบจาก คสช. ภายใต้มาตรา 44
  • ฝ่ายตรงข้าม ชี้ว่านี่คือตัวอย่างของความล้มเหลวเชิงนโยบายที่ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลต่อรัฐ

แม้จะยังมีข้อถกเถียงในสังคม แต่บทเรียนสำคัญจากคดีนี้คือ การกำกับดูแลนโยบายสาธารณะ ต้องมีกลไกตรวจสอบที่เข้มงวด ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีเพียงใด หากขาดความโปร่งใสและบริหารผิดพลาด ก็สามารถกลายเป็นต้นตอของความเสียหายระดับประเทศได้


สรุปบทเรียน: นโยบายดีแค่ไหน ถ้าไร้การควบคุม ก็อันตราย

กรณีจำนำข้าวเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของนโยบายประชานิยมที่ ต้องออกแบบด้วยความรอบคอบ และ มีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็ง หากหวังผลการเมืองระยะสั้น แต่ละเลยผลกระทบระยะยาว ก็อาจต้องจ่ายราคาแพงไม่เฉพาะในเชิงงบประมาณ แต่รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม กรุงเทพฯ-ภาคตะวันออก-ใต้ เสี่ยง “น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก”

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คาดว่าจะมี ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง

สาเหตุมาจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ขณะที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ ปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ทำให้เกิดฝนสะสมหลายพื้นที่


พื้นที่เสี่ยงและข้อควรระวัง

  • พื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก-น้ำท่วมฉับพลัน
  • ชาวเรือ ควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยที่อาจมีคลื่นสูงเกิน 2 เมตรในบางจุด
  • เกษตรกร ควรเร่งเสริมความแข็งแรงให้พืชผลทางการเกษตร และระวังโรคพืชจากฝนตกสะสม

สภาพอากาศโดยสรุปในแต่ละภูมิภาค

  • ภาคเหนือ: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ ร้อนสูงสุด 37°C
  • ภาคอีสาน: ฝนฟ้าคะนอง 40% ร้อนสูงสุด 35°C
  • ภาคกลาง: ฝนฟ้าคะนอง 40% ร้อนสูงสุด 37°C
  • ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 60% มีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ฝนฟ้าคะนอง 60% คลื่นสูงถึง 2 เมตรในบางจุด
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนอง 60% มีฝนตกหนักบางแห่ง

แนวโน้มช่วง 23–27 พ.ค.

ฝนจะ ตกเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ จากอิทธิพลของมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของไทยและภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้หลายพื้นที่เผชิญฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง

ประชาชนควรติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง